SUPREME 24

   
ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ
  บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โดย คุณรุ่งนภา สดงาม
สนใจร่วมกับทีมงานตัวแทนประกันชีวิต มืออาชีพ บริหารงานโดย คุณรุ่งนภา โทร. 086-3341466

อยากให้มีใจที่ยึดมั่น มองประกันชีวิตให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีคุณค่าอย่างไร โดยคุณกมลพีรญา ปฏิพิพัฒน์

E-mail Print PDF

เยี่ยมสำนักงานของตัวแทน

คุณกมลพีรญา ปฏิพิพัฒน์

ผู้จัดการเขต
เจ้าของสำนักงานตัวแทน จ.ลำปาง

 

                ฉบับนี้เราอยู่กันที่ จ.ลำปาง เพื่อเยี่ยมชมสำนักงานตัวแทนถนนเขลางค์นครของคุณกมลพีรญา ปฏิพิพัฒน์ เป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา 3 ชั้น รวมค่าตกแต่งแล้วมูลค่าร่วม 5 ล้านกว่าบาท นับเป็นเอโอแห่งแรกของ จ.ลำปาง ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2553

 ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว

               “ดิฉันเป้นคนจังหวัดลำปางโดยกำเนิด เป็นลูกคนสุดท้อง ในจำนวนทั้งหมด 5 คน ครอบครัวเราเป็นชาวนา ฐานะยากจน และยิ่งเราเป็นผู้หญิงคุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่ได้สนับสุนเรื่องการเรียน ดิฉันมีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กคืออยากรวย อยากมีเงินเยอะๆ พอจบชั้นประถม ดิฉันจึงต้องหางานทำเพื่อจะได้เรียนหนังสือต่อ พอเรียนจบก้ได้ทำงานอยู่โรงพยาบาลรัฐบาล 10 ปี และย้ายมาที่โรงพยาบาลเอกชนอีก 15 ปี ปัจจุบันสมรสแล้วกับคุณสมยศ ปฏิพิพัฒน์ ซึ่งทำงานอยู่ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ มีลูก 2 คน หลังจากแต่งงาน สามีได้ฉุดเราออกจากครอบครัวที่ยากจน ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”

ความคิดเห็นที่มีต่อประกันชีวิต

               “ช่วงที่อยู่โรงพยาบาลเอกชน ดิฉันสสังเกตุลูกค้าที่เข้ามานอนที่โรงพยาบาลจะมีอยู่ 2 กลุ่ม คือลูกค้าที่เบิกค่ารักษาพยาบาลได้กับประเภทที่เบิกไม่ได้  สำหรับลุกค้าที่มีประกัน นอกจากจะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้แล้วยังได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหาย แต่คนไข้ที่ไม่มีประกัน พอดีขึ้นในระดับหนึ่ง ก็มักจะขอย้ายไปโรงพยาบาลรัฐบาล ดิฉันเห็นแบบนี้เป็นประจำเลยมองว่า การทำประกันชีวิตเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีไว้เราก็ไม่ต้องห่วงกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลอีกต่อไป”

รู้จักอลิอันซ์ อยุธยา ได้อย่างไร

               “ตอนนั้นดิฉันมีเพื่อนที่ขายประกันอยู่ก่อนแล้ว คือ คุณอนงค์ อำมาตยกุล เธอได้มาชวนให้ไปสอนเป็นตัวแทน ซึ่งจากการที่เราเคยเห็นภาพที่ดีมาก่อนจากคนไข้ที่อยู่ในโรงพยาบาลว่าการทำประกันนั้นเป็นเรื่องดี อีกทั้งงานพยาบาลก็เป็นสายงานบริการอยู่แล้ว ถ้าลองดูก็ไม่มีอะไรเสียหายจึงตัดสินใจสอบเป็นตัวแทน ผลคือสอบได้ และเริ่มต้นขายประกันจากคนไข้ที่เราเห็นว่าเขาไม่มีประกันชีวิต โดยทำเป็น Part-time ควบคู่กันไป จากคนไข้ 1 คน ก็ต่อยอดออกไปเรื่อยๆ เพราะเราจะดูแลเขาอย่างดี ชนิดที่ว่าต้องไปนั่งอยู่กลางใจลูกค้าให้ได้ จนเขารับเราเข้าไปเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว”

จุดหักเหที่ทำให้ออกจากอาชีพเดิม

               “จากเดิมทีต้องทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล มีเพียงเงินเดือนอย่างเดียว พอได้มารู้จักกับอาชีพประกันชีวิต รายได้ก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนมีอยู่วันหนึ่งได้เจอกับอาจารย์ คือคุณกฤตธรรม กฤษตมโนรต ท่านถามดิฉันว่าที่ทำงานทุกวันนี้ทำเพื่อใคร… ตอบทันที…เพื่อคนที่เรารัก รายได้ตอนนี้เดือนละเท่าไร ดิฉันก็ตอบไปว่าหมื่นต้นๆ ท่านก็มาช่วยแจกแจงเลยว่าต้นทุนการทำงานของเรามีอะไรบ้าง ทั้งการแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม ค่าน้ำมันรถ ค่าบำรุงรักษา มันก็เกินหมื่นไปแล้ว จุดนี้เลยทำให้ได้คิดว่าเราใช้เวลาทิ้งไปเปล่าๆ กับการทำงานตรงนี้โดยที่ไม่มีอะไรเหลือเลย เงินเก็บไม่มีแถมบางทียังจะขาดทุนเสียอีก แต่รายได้จากการขายประกันที่เราทำเป็น Part-time กลับมีรายได้มากกว่าเงินเดือนประจำ มันทำให้เราเริ่มคิดและมีแนวโน้มเอียงไปทางประกันชีวิตมากขึ้นแต่ด้วยความที่เราทำงานโรงพยาบาลมานาน การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอะไรมันเป็นเรื่องยาก ทั้งที่มีเหตุผลมาสนับสนุนมากมาย จุดหักเหที่ทำให้ดิฉันตัดสินใจออกจากอาชีพผู้ช่วยพยาบาลคือความน้อยใจในตัวหัวหน้า เพราะปกติดิฉันจะขออยู่เวรเช้าตลอด เพื่อจะได้มีโอกาสอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว ถ้าต้องขึ้นเวรบ่ายหรือดึกก็มักจะแลกเวรกับน้องๆ แต่มีวันหนึ่งมาประชุมเช้า เลยไปแลกเวรบ่ายตอกบัตรผิด ไปตกเป็นเวรเช้า ก็ต้องเปลี่ยนโดยเอาไปยื่นให้หัวหน้าเฃ็นต์รับรอง หัวหน้าก็คงพูดเล่นว่าเราทำงานตอกบัตรบ่ายบัตรดึกไม่เป็น วันหลังคงต้องให้อยู่ซะบ้าง ตอนนั้นคิดอยู่แล้วว่าต้องโดน เลยบอกกับตัวเองว่า พอละ หยุดละกับงานตรงนี้ ตัดสินใจไปบอกสามีว่าจะออกจากโรงพยาบาลไปขายประกัน แต่ใจหนึ่งก็กังวลอยู่ลึกๆ ว่า ถ้าเกิดทำไม่ได้หรือทำไม่สำเร็จจะเป็นอย่างไร ตอนแรกสามีก็อึ้งไป แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเขาสามารถดูแลครอบครัวได้ อย่างน้อยก็ดูแลมาตลอด 10 ปีแล้ว มันเป็นคำตอบที่ได้ยินแล้วเรารู้สึกปลื้มและเกิดมีกำลังใจขึ้นมา เลยมุ่งมั่นที่จะทำอาชีพใหม่ให้ดีให้ได้ จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นผู้ช่วยพยาบาล เมื่อปี 2544”

การเริ่มต้นในอาชีพตัวแทนประกันชีวิตแบบเต็มตัว

               “คืออาชีพนี้เป็นอาชีพที่เราต้อง Control ตัวเอง ฝึกตัวเอง หมั่นศึกษาหาความรู้ เข้าอบรมวิชาการต่างๆ อย่าได้ขาด มีระเบียบวินัยในการเรียนรู้ แม้ส่าเราจะไปเรียนรู้ในหัวข้อเดิมๆ ก็ต้องไปตลอด ต้องพาตัวเองให้เข้าไปอยู่ในบรรยากาศ Recruit ตัวเองทุกวัน จะทำให้เราทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และข้อสำคัญคือเป้าหมาย เป้าหมายที่เราวางเอาไว้ต้องเอามากระตุ้นตัวเอง ดิฉันเริ่มมาทำประกันชีวิตเต็มตัวในปี 2546 และเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้จัดการหน่วย มีการขายทีมขึ้นเรื่อยๆ พอปี 47 ก็เริ่มแตกหน่วย พอ Recruit ได้ก็ต้องเข้ามาวางแผนเพื่อที่จะเลื่อนตำแหน่งให้ได้ทุกคน”

ทำไมถึงคิดเปิดเอโอ

               “เป้าหมายที่จะสร้างทีมงาน ทำให้ดิฉันมีหน่วยมากขึ้น ซึ่งเขาเหล่านั้นนอกจากจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ยังเป็นเหมือนพี่น้อง เป็นครอบครัว ดิฉันอยากให้น้องๆ มีที่ทำงาน มีที่ที่เราได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ในตอนนั้น จ.ลำปาง ยังไม่มีสำนักงานตัวแทน มีเพียง Service Center จึงเรียนปรึกษาเฮียคุง (คุณกฤษดา กิตติทัศน์เศรณี) ด้วยความช่วยเหลือจากท่าน ทำให้เกิด AO ถนนเขลางค์นครแห่งนี้ค่ะ”

การเลือกสถานที่สำหรับเปิดเอโอ

               “ ดิฉันโชคดีที่ได้เฮียคุงมาช่วยดูที่นี่ให้ และพบว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนที่บูมมาก ตอนเช้าจะมีคนเดินทางผ่านไปทำงานที่ศาลากลาง ค่ายทหาร โรงพยาบาลค่าย โรงพยาบาลศูนย์ ถ้าตั้งสำนักงานตรงนี้ คนจะรู้จักเรามากขึ้น และที่ดินตรงนี้เป็นห้องเปล่า เป็นตึกแถว 2 คูหา ยังไม่ได้ตกแต่ง ดิฉันตัดสินใจซื้อในราคา 4 ล้านบาท หมดค่าตกแต่งอีกล้านกว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงตัดสินใจเปิดเป็นสำนักงานตัวแทนเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2553 ด้านหลังเราทำเป็นสวนไว้ทานข้าวและทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างตัวแทน เพราะที่นี่เปรียบเสมือนบ้านของพวกเรา”

กิจกรรมภายในสำนักงาน

               “มีการจัด Weekly Meeting ทุกวันจันทร์เนื้อหาสำคัญคือ เราจะแชร์กันว่าที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง และเป้าหมายต่อไปอีก 1 อาทิตย์จะทำอะไร ให้เล่าประสบการณ์ในการขายที่ขายได้และขายไม่ได้ โดย AL ต้องมาปรึกษากันก่อนว่ารูปแบบงานควรออกมาแบบไหน ใครมีหน้าที่ทำอะไร พิธีกรเป็นใคร จะเชิญวิทยากรพิเศษจากที่ไหน เราก็แบ่งงานกันไปโดยได้รับคำปรึกษาจาก ผอ.กฤษดา ผอ.อานนท์ และผู้ที่คอยตอกย้ำให้กิจกรรมเกิดขึ้นยอย่างต่อเนื่องคือคุณชิระ วชิรธิติพล”

หลักการบริหาร

               “ดิฉันพยายามสร้างทีมเพื่อแตกหน่วยให้ได้เยอะขึ้น ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 11 หน่วย ตัวแทนอีก 147 คน โดยส่วนใหญ่จะทำเป็น Part-time ตอนนี้เรากำลังสร้างตัวแทนแบบ Full-time ขึ้นมาบ้างแล้ว ส่วนฐานของลูกค้านอกจากที่ จ.ลำปาง ก็มีขยายต่างอำเภอ ต่างจังหวัดโดยสร้างตัวแทนให้มีทุกอำเภอทุกตำบล และทุกหมู่บ้าน จากคำแนะนำของเฮียคุง การบริหารเรามีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา จะมีประธาน เหรัญญิก ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมทั้งหลาย ผู้บริหารก็ร่วมลงขันกัน เราอยู่กันแบบพี่แบบน้อง ทุกคนรักกัน ความรักความสามัคคีถือเป็นเรื่องสำคัญของที่นี่ เพราะที่นี่คือบ้านของพวกเขาหลังหนึ่งค่ะ”

ปัญหาและอุปสรรค์

               “ถ้าเจอปัญหาเราจะรับปัญหากลับมาก่อน แล้วค่อยมาคุยกันหาวิธีการแก้ไข เราจะไม่โต้กันโดยการใช้อารมณ์ ต้องฟังเรื่องทั้งหมดให้จบก่อน ถ้าลูกค้าแรงมา เราก็ต้องนิ่ง และเอาปัญหากลับมาคุยเพื่อแก้ไขให้กับลูกค้า การทำประกันชีวิต การบริการหลังการขายถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เช่น ถ้าลูกค้านอนโรงพยาบาล ตัวแทนก็ต้องไปเยี่ยม เป็นการแสดงความเอาใจใส่ ตัวแทนที่ดีต้องทำให้ลูกค้าเชื่อใจ ไว้วางใจจนกลายเป็นตัวแทนประจำตระกูลให้ได้”

เป้าหมายที่ตั้งไว้

               “ดิฉันตั้งใจจะขึ้น AVP ให้ได้ หลังจากนั้นก็ต้องสร้าง AVP ต่อจากดิฉัน ตอนนี้แพลนไว้ที่ 3 AVP”

ได้อะไรจากอยุธยา อลิอันซ์

               “จากเดิมที่มาจากครอบครัวคนจน พอแต่งงานกับสามีก็ได้รับการดูแลที่ดีระดับหนึ่ง แต่อิสระในการใช้เงินก็มีอยู่บ้าง แต่พอได้ก้าวมาอยู่กับอยุธยา อลิอันซ์ เห็นได้ว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ดิฉันมีรายได้เข้ามาเพิ่มมากขึ้น สามารถใช้เงินได้อย่างอิสระ นอกจ้านั้นที่นี่ยังได้ช่วยขัดเกลาบุคลิกภาพ ทำให้เรามีบุคลิกดีขึ้น มีความเป็นนักบริหาร ได้ใช้ศักยภาพของตนเอง ประกันชีวิต ทำให้ดิฉันเปลี่ยนแปลงไปเยอะค่ะ”

ฝากข้อคิดถึงตัวแทนประกันชีวิต

               “อยากให้มีใจที่ยึดมั่น มองประกันชีวิตให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีคุณค่าอย่างไร และก็ขอให้มุ่งมั่นในการทำงาน ต้องขยัน อดทน ทำงานอย่างต่อเนื่อง ถ้าเราทำอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีงานเกิดใหม่ กำลังใจก็จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเราทำแล้วทิ้งไปสักระยะหนึ่ง โอกาสที่จะตายจากอาชีพนี้ก็สูง การทำอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ตัวแทนทุกคนต้องทำ เพราะจะทำให้เราประสบความสำเร็จได้”

ฝากข้อคิดถึงคนที่จะเปิดเอโอ

               “สำหรับตัวแทนที่คิดจะเปิดเอโอ ต้องมีความพร้อมทั้งในเรื่องคนและหน่วยงานภายใต้เราก็ต้องมีให้เยอะๆ เพราะค่าบริหารจัดการ AO มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เรื่องเลขาฯ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าส่งเอกสารทุกอย่างจิปาถะ จะไม่มีความแตกต่างเลยถ้าเราไม่มีทีมงานเพื่อมาสนับสนุน”

 

ฝากคำขอบคุณ

               “ก็ต้องขอบคุณเฮียคุงนะคะ คุณกฤษดา กิตติทัศน์เศรณี ท่านเป็นเสมือนพ่อและครูที่สอนให้ดิฉันรู้จักการให้ เข้าใจถึงพลังของการให้ ไม่ใช่จากคำพูดแต่จากการกระทำของท่าน ขอบคุณแม่ในอาชีพ คุณรชาภา รัตนนิธิ ขอบคุณ คุณชิระ วชิรธิติพล ที่เป็นคนประสานงาน มาขลุกอยู่กับเราตลอด จนทำให้บรรยากาศที่นี่คึกคักอย่างทุกวันนี้ ขอบคุณคุณสมยศ อังศุวรพฤกษ คุณคอม จันต๊ะขัน ตุณสุพจน์ ไชยพรมมา คุณประสานมิตร สิงหวิบูลย์ ที่คอยช่วยเหลิอในทุกๆ เรื่อง ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”

               และนี่คือความรู้สึกจากใจของคุณคุณกมลพีรญา ปฏิพิพัฒน์ ที่ถ่ายทอดประสบการณ์ที่ผ่านมาให้ทุกๆ คนได้เห็นถึงความตั้งใจ ขยัน และอดทน จนมีสำนักานตัวแทนเป็นของตนเอง และเรากำลังรอเจ้าของสำนักงานตัวแทนท่านต่อไปในฉบับหน้า

สมัครเป็นตัวแืทนประกันชีวิต

 
QR CODE Facebook
Twitter
Since 19.10.09
You are here: Home นักธุรกิจประกันชีวิต แม่แบบนักธุรกิจประกันชีวิต อยากให้มีใจที่ยึดมั่น มองประกันชีวิตให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีคุณค่าอย่างไร โดยคุณกมลพีรญา ปฏิพิพัฒน์