เยี่ยมสำนักงานของตัวแทน
คุณสกุลรัตน์ ภูติภัทร์
รองผู้อำนวยการและเจ้าของสำนักงานตัวแทนตราด จ.ตราด
ฉบับนี้เราเริ่มกันแถวจังหวัดชายทะเลปลายแหลมสุดของภาคตะวันออก กับคุณสกุลรัตน์ ภูติภัทร์เจ้าของสำนักงานตัวแทนตราด เป็นอาคารพาณิชย์ 1 ห้อง 3 ชั้นครึ่ง มูลค่ารวมตกแต่งร่วม 5 ล้านบาท
ก่อนเข้าสู่วงการประกันชีวิต
“ดิฉันเป็นคนจังหวัดตราด เกิดและเติบโตที่นี่คุณพ่อคุณแม่เป็นเกษตรกร ทำสวนยาง สวนผลไม้ มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน ดิฉันเป็นคนที่ 3 ครอบครัวของดิฉันมีความคิดแตกต่างจากหลายๆ ครอบครัวตรงที่ให้ลูกผู้หญิงเรียนหนังสือ ส่วนผู้ชายไม่ต้องเรียนมาก ให้ออกมาทำงานที่บ้านแทนเพราะงานสวนเป็นงานที่หนักเกินกำลังของผู้หญิง ดังนั้นดิฉันจึงมีโอกาสได้เรียนหนังสือจนจบ ม.ศ.5 ที่ จ.ตราด และสอบได้ทุนเรียนพยาบาลอีก 4 ปี จริงๆ แล้วไม่ได้อยากเรียนพยาบาล แต่เพราะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะที่ชอบไม่ได้ และไม่รู้จะเรียนอะไร พอสอบพยาบาลได้ก็เลยเรียน จบมาก็ทำงานเป็นพยาบาลวิชาชีพ แม้จะไม่ชอบแต่ดิฉันมีความคิดว่าการจะทำอะไรเราก็ควรตั้งใจทำให้ดีที่สุด จนกลายมาเป็นความชอบ ดิฉันเป็นพยาบาลร่วม 20 ปี ตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกคือหัวหน้าตึกผู้ป่วย ปัจจุบันสมรสกับคุณสุรศักดิ์ ภูติภัทร์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจ มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตกำลังเรียนคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี ภาคอินเตอร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนคนเล็กเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา
รู้จักอยุธยา อลิอันซ์ ได้อย่างไร
“คนที่แนะนำดิฉันเข้าสู่อยุธยา อลิอันซ์ คือคุณจำเรียง แก้วตระการวงศ์ ซึ่งเป็นรุ่นพี่พยาบาลปีนึงก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนเข้ามาเสนอขายประกัน ดิฉันก็คิดจะซื้อแบบประกันการเจ็บป่วยให้ลูกอยู่แล้วเพราะถึงแม้ว่าเราจะเบิกค่ารักษาในโรงพยาบาลของรัฐได้ แต่ก็ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ เวลาลูกป่วยเราก็อยากได้ห้องพิเศษจะได้สะดวกในการดูแล แต่บางครั้งทางโรงพยาบาลไม่มีห้องว่าง ดิฉันจึงเลือกพาลูกเข้าโรงพยาบาลเอกชนแทน พอคุณจำเรียงมาแนะนำให้เราเป็นตัวแทนประกันชีวิต เพื่อที่จะได้ดูแลครอบครัวและญาติพี่น้องด้วยตัวเราเอง อีกทั้งยังสามารถซื้อประกันได้ในราคาต้นทุน ดิฉันก็สนใจและเห็นคนรอบข้างหลายคนที่เป็นตัวแทนแล้วมีรายได้ดีจึงลองขายดู ปรากฎว่าขายได้ ช่วงนั้นขายประกันไม่ยากเลย ดิฉันขายใครก็ขายได้ จำได้ว่ายังไม่ทันสอบเป็นตัวแทนก็ได้ค่าคอมฯ แล้ว 2 แสน จากการขายเพียง 2-3 เดือน พอสอบได้เป็นตัวแทนเต็มตัวได้ค่าคอมฯ รวมเป็นเสร็จแล้ว 3 แสนกว่าบาทในเวลาเพียง 3 เดือน อีกทั้งยังติดคุณวุฒิท่องเที่ยวเกือบทุกคุณวุฒิ อย่างคุณวุฒิแคนาดาดิฉันใช้เวลาเพียง 4-5 เดือน ก็สามารถทำได้ ดิฉันชอบท่องเที่ยวอยู่แล้วเลยสนุกกับการขายประกันในครอบครัวก็มีชวนพี่สาวให้เข้ามาสู่วงการประกันชีวิตด้วยกัน ส่วนสามีทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำดื่มและน้ำแข็ง มีโรงงานที่ต้องดูแล และทำงานการเมืองร่วมด้วยจึงไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็คอยช่วยขับรถรับส่งให้ตลอด มาช่วงหลังเค้าจะเข้ามาช่วยในการบริหาร การสอนทีมงานได้มากขึ้นเพราะมีความสุขในการได้เห็นได้พัฒนาน้องๆ ที่เข้ามาทำงาน ได้มีการเจริญเติบโตก้าวหน้า จนถึงปัจจุบันนี้ดิฉันทำงานประกันชีวิตมาได้เกือบ 16 ปีแล้ว”
การทำงานสองอย่างควบคู่กัน
“ตอนนั้นดิฉันเป็นพยาบาลและขายประกันไปพร้อมกัน โดยยึดหลักที่ว่า การจำทำอะไรก็ควรตั้งใจและทุ่มเทให้กับสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ อย่างตอนที่เป็นพยาบาลทำงานให้หลวง ดิฉันก็ทำงานเต็มเวลา ถ้าเข้างาน 8 โมง ก็มักจะไปเตรียมตัวก่อนเวลาเสมอบางที 7 โมงเช้าก็ถึงที่ทำงานแล้ว และพอเลิกงาน 5 โมงเย็นถึงค่อยไปหาลูกค้า แม้จะมีเวลาเพียงแค่ 2-3ชั่วโมง ดิฉันก็ตั้งใจขายประกันทุกวัน ทำแบบนี้อยู่ 7 ปี ก็ถึงจุดที่ต้องเลือก เพราะอายุเราเพิ่มขึ้น การทุ่มเทให้กับการทำงานโดยไม่มีเวลาพักผ่อน ร่างกายเราเริ่มรับไม่ไหว เวลาส่วนตัวก็แทบจะไม่มี พอคิดวางแผนจะพาครองครัวไปเที่ยว ถ้าไม่ติดงานพยาบาลก็มาติดงานประกันอีก หลาย ๆ ครั้งเข้าก็เริ่มมาคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ดิฉันตัดสินใจเลือกอาชีพประกันชีวิตเพราะชอบในเรื่องค้าๆ ขายๆ อีกทั้งสามีเองก็ทำการเค้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และประกันชีวิตเป็นสิ่งที่ดีมีคุณค่าสำหรับทุกคน อีกเหตุผลหนึ่งคือประกันชีวิตลงทุนน้อย รายได้ดี และการเลื่อนตำแหน่งขึ้นสู่ระดับสูงในอนาคตนั้นง่ายกว่าการเป็นพยาบาล ที่กว่าจะเลื่อนตำแหน่งแต่ละทีก็ต้องรอให้คนเก่าเกษียณไปก่อน บางครั้งเหมือนเป็นการรอที่ไม่มีกำหนด ตอนนั้นเงินเดือนพยาบาลที่ได้เกือบ 3 หมื่นบาท บางเดือนซื้อของใช้ก็หมดไปแล้ว เรียกว่าได้มาก็ใช้ไปไม่มีเหลือเก็บ แต่ก่อนที่จะลาออกจากพยาบาลก็ตั้งปณิธานไว้ว่าถ้าตราบใดยังขายประกันได้ไม่ถึงแสนบาทต่อเดืนอก็ยังไม่กล้าออกต่อมามีรายได้ 1 แสนบาทต่อเดือนจริงๆ และพอถึงจุดเปลี่ยนจึงตัดสินใจลาออกจากพยาบาลเมื่อปี 2545 ซึ่งพอออกมาแล้วรู้สึกสบายมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น ชีวิตมีอิสระมากขึ้น สุขภาพเราก็ดีขึ้น มีเวลาให้กับครอบครัว ทุกคนก็มีความสุข”
เหตุผลที่เปิด AO
“สมัยนั้นมีเพียงสำนักงานสาขาเท่านั้น ยังไม่มี AO พอปี 2545 ทางบริษัทฯ มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย ผู้บริหารระดับสูงย้ายไปอยู่บริษัทอื่น ทำให้ตัวแทนหลายคนย้ายตามไปด้วย จากที่มีหน่วยงานหลายหน่วยก็เหลือของดิฉันเพียงหน่วยเดียว อีกทั้งบริษัทฯ ได้ยกเลิกสาขาแล้วหันมาสนับสนุนให้ตัวแทนเปิดสำนักงานเป็นของตัวเอง ถ้าเราไม่เปิด ลูกค้าของเราก็จะเคว้งคว้าง ดิฉันห่วงทั้งลูกค้าและภาพพจน์ของบริษัทฯ มันเหมือนเป็นความจำเป็น ตอนนั้นยอมรับว่าท้อเพราะไม่รู้ว่าจะประคับประคองบริษัทฯ ของเราไปได้แค่ไหน โชคดีที่คุณจำเรียงและคุณอนันต์คอยแนะนำและให้ความช่วยเหลือจาก 1 หน่วยเราก็สามารถขยายขึ้นได้ถึง 5 หน่วย และเปิดเป็นสำนักงานตัวแทนในที่สุด”
การเลือกสถานที่สำหรับเปิด AO
“แต่ก่อนดิฉันเช่าสถานที่ต่อจากบริษัทซึ่งเปิดเป็นสาขาของบริษัทมาก่อน แต่เมื่อเราอยากจะขยับขยายต่อเติมอะไรก็ทำไม่ได้ตามต้องการ จึงตัดสินใจมาซื้อที่ตรงนี้ เป็นอาคารพาณิชย์ 1 ห้อง สูง 3 ชั้นครึ่ง ราคา 2.5 ล้าน ตกแต่งอีก 2.5 ล้าน ชั้นล่างเป็นห้องรับรองลูกค้า ชั้นลอยเป็นห้องประชุมเล็ก ชั้น 2 เป็นห้องทำงานผู้บริหารชั้น 3 เป็นห้องประชุมใหญ่ แต่ถ้าคน 25 คนขึ้นไปเราก็ต้องไปเช่าสถานที่อื่นจัดประชุม”
หลักการบริหารงาน
“ AO เราจะดูแลกันเหมือนพี่เหมือนน้อง มีความจริงใจให้แก่กันตอนนี้มีหน่วยที่อยู่ในความดูแล 23 หน่วย ตัวแทนอีก 200 คน แต่แยกไปเปิดสำนักงานใหม่ อีก 2 แห่ง เหลือหน่วยงานอยู่ 9 หน่วย ถ้าเทียบกับที่อื่นของเราอาจจะดูเหมือนน้อย แต่เพราะเราไม่ได้เน้นการขายเพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นในเรื่องของการพัฒนาคนด้วยซึ่งมันก็ต้องใช้เวลา ต้องรอให้เขาเติบโตกันขึ้นมาอย่างแข็งแรงและมีคุณภาพ ดังนั้นกิจกรรมของเราทุกสัปดาห์ ในวันจันทร์เราจะสอนตัวแทนที่เป็น Full-time พอชั่วโมงถัดไปก็จะคุยกับผู้บริหาร Full-time ส่วนวันพุธจะมีกิจกรรม Weekly Meeting โดยจะเชิญตัวแทนทั้งเก่าและใหม่มาประชุมพร้อมกันโดยเราจะจัดทุก 2 สัปดาห์ ส่วนวันพฤหัสจะคุยกับทีมงานเลขา”
ได้อะไรจากการเปิด AO
“ดิฉันคิดว่าการเปิด AO คือการที่เราสามารถบริหารงานได้อย่างอิสระตามที่เราต้องการ เราต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตทั้งต่อบริษัทฯ และต่อลูกค้า อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ไม่เหมือนบริษัทอื่นตรงที่เปิดโอกาสให้เราสร้างธุรกิจเพื่ออนาคต ไม่ปิดกั้น ถ้าเรามีความสามารถพอก็เติบโตได้เร็ว เพราะตัวสินค้าดี มันขายตัวของมันเองยิ่งเราสร้างคน พัฒนาคนมากขึ้นเท่าไรยิ่งดี เพราะระบบของบริษัทฯ วางไว้ดี หลังจากเปิด AO แล้วจึงกลายเป็นผลดีต่อเราเพราะนอกจากตัวแทนมีความสะดวกสบายในการทำงานแล้วก็ทำให้ขายง่ายขึ้นด้วย เนื่องจากลูกค้าเชื่อมั่น และไว้วางใจเราเพิ่มขึ้น”
ข้อแนะนำสำหรับคนที่คิดจะเปิด AO
“การเปิด AO ก็คือธุรกิจอย่างหนึ่ง เราต้องมองให้กว้างๆ นอกจากมีหน่วยแล้วก็ต้องมีกำลังทรัพย์พอสมควร สำนักงานตัวแทนคือภาพลักษณ์ของเราและของบริษัทฯ คือธุรกิจของเราเอง จึงควรทำตามรูปแบบของบริษัทฯ ดิฉันจึงต้องพยายามทำให้ดี ลงทุนค่อนข้างเยอะในการตกแต่งสำนักงาน แต่สิ่งที่ได้รับคุ้มค่ามากค่ะ”
เป้าหมายในอนาคต
“ตอนนี้ดิฉันอยู่ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ตั้งเป้าว่าจะทำผลงานให้ได้ 30 ล้าน และมีหน่วยงานเพิ่มขึ้นเป็น 30 หน่วย”
ข้อคิดเห็นสำหรับคนที่สนใจเป็นตัวแทนประกันชีวิต
“นอกจากรายได้ที่มากมายกว่าหลายๆ อาชีพแล้ว ประกันชีวิตทำให้เราได้พัฒนาบุคลิกภาพ พัฒนาจิตใจ ทำให้มองโลกในแง่บวกวิสัยทัศน์ดีขึ้น การทำงานตรงนี้ต้องมองให้รอบด้าน ช่วงที่ขายได้ก็ต้องเก็บเอาไว้เผื่อช่วงที่ขาดทุน ตัวแทนบางคนพอขายได้ก็ดีใจอาจหลงเพลินไปกับความคิดว่าได้เงินมาง่าย แล้วพอขายไม่ได้ติดๆกันก็เกิดความท้อ คิดอยากออกจากอาชีพ ก็อยากให้มองถึงผลประโยชน์ของลูกค้าและบริษัทฯ บ้างธุรกิจมีทั้งขายได้และขายไม่ได้ต้องใช้เวลาสะสมเรียนรู้ไปเรื่อยๆ งานบริการอย่างเราต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ถ้าเราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ ใช้ความจริงใจ และที่สำคัญที่สุด คือความซื่อสัตย์สุจริต ลูกค้าก็จะเข้ามาหาเราเอง เมื่อขายบ่อยๆ เข้าก็จะเก่งขึ้น บริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ให้โอกาสเราก้าวหน้าเร็วกว่าที่อื่นอยู่แล้ว ทุกวันนี้เด็กรุ่นใหม่มาเร็วไปเร็วลืมมองไปว่าคนที่สนับสนุนเราพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเราอยู่”
ความภูมิใจที่ได้รับ
“การที่เราสร้างคน จากคนที่ไม่มีรายได้ให้เขามีรายได้และประสพความสำเร็จ ทำให้เขาเติบโตและพัฒนาคนอื่นๆ ต่อไป สร้างคนเพิ่มขึ้นอีกหลายๆ คน จากคนที่ไม่เคยคิดทำประกัน พอเราทำให้เขาได้คิดว่าการทำประกันชีวิตนั้นดี ทำให้ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังมีความมั่นใจ หากในอนาคตเขาไม่สามารถอยู่ดูแลครอบครัวเขาต่อไปได้มันจึงเป็นความภาคภูมิใจที่เราได้รับ จากตอนแรกที่มีเพียงแค่ 1 หน่วย ตอนนี้ขึ้นมาถึง 23 หน่วย ดิฉันคิดว่าน่าจะทำยอดได้สูงเป็นอันดับต้นๆ ของภาคตะวันออก ก็รู้สึกภูมิใจที่เราสามารถทำมาได้ถึงขนาดนี้”
ปัญหาและอุปสรรค
“ในอนาคตการทำงานตรงนี้มันต้องยากขึ้น เพราะคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น ลูกค้ามีช่องทางอื่นให้เลือกในการทำประกันชีวิต เราก็ต้องอาศัยความจริงใจและซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นสำคัญ ดิฉันโชคดีที่ลูกค้าหลายๆ คนให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจ เพราะคนเข้าใจความสำคัญของการทำประกนชีวิตเพิ่มขึ้น อีกทั้งตัวระบบของบริษัทฯ นั้นดี สินค้ามีคุณภาพ ก็ทำให้ขายได้ง่ายขึ้น เราก็ต้องพัฒนาตัวแทนให้มีคุณภาพ รู้จริง ทำได้จริง บริการให้ลูกค้าประทับใจที่สุด”
ฝากคำขอบคุณถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
“ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณคุณจำเรียง แก้วตระการวงศ์ ที่เป็นคนชักนำดิฉันเข้ามาสู่ธุรกิจประกันนชีวิตและเป็นแบบอย่างในการทำงานแต่ก่อนดิฉันคิดว่าการทำประกันชีวิตนั้นไม่ดี แต่พอมาศึกษาแล้วจึงรู้ว่าอาชีพนี้มันดี ให้อะไรกับเรามากมาย ขอบคุณคุณอนันต์ เข็มทอง ผู้ที่ช่วยคิดและขยายทีมงาน ขอบคุณน้องๆ ทีมงานตัวแทนทุกๆ คนที่ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ขอบคุณครอบครัวที่เป็นกำลังใจและให้การสนับสนุนมาตลอดตั้งแต่เริ่มต้น และที่สำคัญต้องขอขอบคุณบริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต ที่ให้โอกาสดิฉันเข้ามาร่วมงานในบ้านสีน้ำเงินอันอบอุ่นหลังนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”
ด้วยความทุ่มเทแรงกายแรงใจ ขยัน อดทน ทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด คุณก็จะประสพความสำเร็จอย่างเช่นคุณสกุลรัตน์ ภูติภัทร์และในฉบับหน้าเราพร้อมที่จะต้อนรับเจ้าของสำนักงานตัวแทนท่านใหม่ที่อาจเป็นคุณ
ที่มา : Ayudhay Allianz C.P. STAR ฉบับที่ 6 ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555
< Prev | Next > |
---|