SUPREME 24

   
ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ
  บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โดย คุณรุ่งนภา สดงาม
สนใจร่วมกับทีมงานตัวแทนประกันชีวิต มืออาชีพ บริหารงานโดย คุณรุ่งนภา โทร. 086-3341466

เป้าหมายต้องชัดเจนและเดินตามเป้าหมายที่เราวางไว้

E-mail Print PDF

คุณภัทรเนตร  สุวรรณดี
ผู้บริหารตัวแทนและเจ้าของสำนักงานเชียงแสน
จ.เชียงราย
 

หันเหจากอาชีพแม่พิมพ์มาทำชิปปิ้งเพื่อโอกาสที่ดีกว่า

         “ดิฉันเกิดและโตที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ช่วงแรกๆ คุณพ่อคุณแม่มีอาชีพทำไร่ทำสวน และหันมาค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ในภายหลังจนสามารถส่งเสียลูกๆ ให้ได้เรียนครบทุกคนดิฉันจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย วิชาเอกคณิตศาสตร์ โทบริหารการศึกษา จบมาก็มีโอกาสได้ใช้วิชาชีพ โดยเป็นครูอัตราจ้างสอนวิชาคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งตอนนั้นก็ได้ไปสอบบรรจุครูรอขึ้นบัญชีไว้ ในระหว่างที่รอบรรจุอยู่นั้น ดิฉันได้มีโอกาสไปทำงานด้านชิปปิ้ง

 คือที่ อ.เชียงแสน จะมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ ไทย ลาว พม่า ช่วงนั้นเศรษฐกิจที่เชียงแสนเพิ่งบูมใหม่ๆ ทำให้มีคนต่างชาติเดินทางเข้ามาทำธุรกิจเยอะมาก ดิฉันจึงรับทำเอกสารให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายระหว่างประเทศเหล่านี้ โดยช่วงแรกทำเองทั้งหมดตั้งแต่พิมพ์เอกสาร,ยื่นเอกสารที่ด่านศุลกากร,คุมคนงานเองเหนื่อยมากๆ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นงานที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า พอทำไปนานๆ ก็เริ่มมีความรู้ความเชี่ยวชาญทำให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในระหว่างนั้นดิฉันก็ได้รับเรียกให้ไปเป็นครูตามที่ได้รอบรรจุไว้ แต่ตัดสินใจปฏิเสธไปเพราะคิดว่าอาชีพครู มีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา เงินเดือน หรือรายได้และตอนนั้นการทำชิปปิ้งกำลังไปได้ดี รายได้ก็เยอะและคิดว่าเราน่าจะทำเป็นธุรกิจของเราเองได้ เลยตัดสินใจมาทำชิปปิ้งเต็มตัวเพราะมองเห็นถึงความก้าวหน้ามากกว่า ดิฉันจึงร่วมกับคุณณิชนาฎ สัมพันธสิทธิ์ เปิดบริษัทชิปปิ้งขึ้นเมื่อปี 2545 เราจะคอยดูแลสินค้าและติดต่อประสานงานกับทางลูกค้า พอเป็นรูปบริษัทเราก็จ้างพนักงานเข้ามาช่วยในด้านเอกสาร ซึ่งตอนนี้ทำมาได้ 9 ปีแล้ว”

เข้าสู่อาชีพประกันชีวิตได้อย่างไร

         “ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะต้องมาเป็นตัวแทนขายประกันชีวิต แต่ดิฉันเป็นคนดูแลกรมธรรม์ให้กับทุกคนในครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว และรู้จักกับคุณกัญญา จงไพบูลย์กิจเป็นการส่วนตัว เวลามีปัญหาเรื่องกรมธรรม์ก็จะปรึกษากับคุณกัญญาตลอด ซึ่งดิฉันค่อนข้างกังวลกลัวว่าภายภาคหน้าถ้าบริษัทที่ทำประกันไว้มีปัญหาแล้วเคลมไม่ได้ก็จะเดือดร้อน บังเอิญช่วงนั้นคุณกัญญากำลังศึกษาแบบประกันของบริษัทอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต อยู่พอดี ทั้งคุณกัญญาและคุณกรกมล จงไพบูลย์กิจ ซึ่งเป็นเจ้าของสำนักงานเชียงรายในตอนนี้ จึงได้เข้ามาแนะนำว่า ถ้าคิดจะทำประกันให้กับครอบครัวหลายฉบับ มูลค่าหลายแสนบาท ตัวดิฉันก็น่าจะสมัครเป็นตัวแทน เพื่อจะได้ดูแลกรมธรรม์ให้กับครอบครัวได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังทำในราคาต้นทุน จึงตัดสินใจไปสมัครสอบเป็นตัวแทนเองตามคำแนะนำและในภายหลังก็ได้เจอและรู้จักกับคุณอริยาภรณ์ พิชญานิธิวัฒน์ ท่านได้พยายามชักชวนให้ดิฉันเข้ามาศึกษางานกับบริษัทฯ เพื่อที่จะทำเป็นธุรกิจของเราเองแต่ในขณะนั้นงานด้านชิปปิ้งที่ทำมันดีอยู่แล้ว เดือนหนึ่งก็มีรายได้อยู่หลายแสนบาทและก็ไม่ค่อยมีเวลาด้วยเพราะต้องดูแลของให้กับลูกค้า เพราะเราเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ ฉะนั้นเราก็ต้องดูแลของๆ เขาให้ดีที่สุดเสมือนว่าเราเป็นเจ้าของเองจึงปฏิเสธคุณกัญญา คุณอริยาภรณ์ไปหลายครั้ง แต่ท่านทั้งสองก็พยายามแวะเวียนมาหาและพูดถึงโครงสร้างผลประโยชน์ของตัวแทนใหั้ฟังอย่างละเอียดและก็ชักชวนให้มาทำธุรกิจด้วย โดยให้ทำเป็นผู้บริหารของบริษัทฯ เลย ซึ่งดิฉันก็ยังมีข้อโต้แย้งหลายข้อว่า ไม่มีเวลา ไม่รู้จะขายใคร พูดไม่เก่ง จนกระทั่งคุณอริยาภรณ์ได้บอกกับดิฉันว่าธุรกิจที่เราทำอยู่นั้นมันก็ดีและหากมีธรุกิจที่เราสามารถกำหนดรายได้เอง บริหารเองมีเงินใช้อีกกระเป๋าหนึ่งไม่ดีกว่าหรือ ดิฉันจึงลองมาศึกษางานด้านประกันชีวิตซึ่งไปหาลูกค้าช่วงแรกๆ ก็จะมีคุณอริยาภรณ์เป็นพี่เลี้ยงคอยพาไปพบลูกค้า และคงเป็นโชคดีของดิฉันที่ไปพบลูกค้ารายแรกคือ คุณณรงค์ หวังตระกูลชัย ซึ่งท่านเป็นเถ้าแก่ที่ดิฉันทำงานด้วยมาตั้งแต่เริ่มเป็นชิปปิ้ง โดยท่านได้ให้ความไว้วางใจฝากเงินกับบริษัท เป็นแบบ 10/5 เบี้ยปีละ 1 ล้านบาท ซึ่งทำให้ดิฉันมีกำลังใจในการทำงานและก็เป็นเคสที่จุดประกายความคิดให้ดิฉันก้าวเข้ามาเป็นตัวแทนอย่างเต็มตัว หลังจากนั้นจึงได้มีโอกาสเจอกับท่านผู้อำนวยการ คุณสมภพ บุญกัลยา ท่านได้สอนแนวทางการคิดให้กับดิฉัน ในขณะนั้นเริ่มเป็นตัวแทนในเดือนเมษายน 2552 จนเมื่อถึงเดือนกันยายน ดิฉันจึงสามารถทำผลงานขึ้นเป็นผู้บริหารได้” 

หลักในการทำงาน

         “ตั้งแต่เรียนจบมาเมื่อปี 2543 ดิฉันเคยทำงานมาก็หลายอาชีพเช่น ครู ลูกจ้างด่านศุลกากร ชิปปิ้งเดินเอกสาร จนเปลี่ยนผันตัวเองมาเป็นเจ้าของบริษัทชิปปิ้ง ก็คิดว่าเราทำงานบริการ ฉะนั้นเราก็ต้องดูแลสินค้าของลูกค้าอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเราก็จะพยายามจัดการให้ลูกค้าประทับใจที่สุด ดีที่สุด หลังจากเข้ามาเป็นตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งก็เป็นงานบริการเช่นกัน ดิฉันจึงยึดถือหลักในการทำงานนี้ โดยทำให้ลูกค้าประทับใจในบริการของเรา ดูแลลูกค้าเหมือนคนในครอบครัว และการทำเช่นนี้ก็ทำให้ดิฉันได้ลูกค้าอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นงานชิปปิ้งหรืองานประกันชีวิต 

ประสบความสำเร็จกับอาชีพตัวแทนประกันชีวิต

         “ดิฉันเริ่มเข้ามาเป็นตัวแทนในเดือนเมษายน ปี 2552 และได้รับโอกาสทางความคิดจากคุณสมภพ บุญกัลยา,คุณอริยาภรณ์ พิชญานิธิวัฒน์ ว่าจะทำประกันชีวิตให้เป็นธุรกิจได้อย่างไร หลังจากนั้นก็เข้าใจว่าการทำธุรกิจมันคือ เราจะต้องเป็นผู้บริหาร จากนั้นจึงได้ขึ้นเป็นผู้บริหารในเดือนกันยายนปีเดียวกัน และในปีแรกของเส้นทางธุรกิจประกันชีวิตแค่เพียง 4 เดือนเท่านั้น ดิฉันก็สามารถทำผลงานได้ถึง 1,200,000 PC ซึ่งผลงานนั้นถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจจึงทำให้รายได้นั้นดีขึ้นตามมา และในปีนั้นจึงมีรายได้ทั้งหมด หลายล้านบาท” 

ให้ความสนใจกับการเปิดสำนักงานตัวแทน

         “หลังจากที่ได้ประเมินผลงานสิ้นปี 2552 และคุยกับท่านผอ.สมภพ ท่านก็สอนให้ดิฉันคิดใหญ่ขึ้น โดยหันมาเปิดสำนักงานตัวแทนเป็นของตนเอง ที่จริงตรงนี้เป็นตึก 3 คูหา ดิฉันเปิดเป็นบริษัททำชิปปิ้งห้องข้างๆ มาก่อน 1 ห้อง ส่วน 2 ห้องนี้ว่างมานานไม่มีคนมาซื้อ ท่านก็แนะนำว่า 2 ห้องนี้เหมาะที่จะทำเป็นสำนักงานตัวแทน จะได้เป็นการสร้างเครดิตให้กับตัวเราและทีมงาน และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วย และอีกอย่างที่เชียงแสนเองก็ยังไม่มีสำนักงานตัวแทนของบมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิตเลย ดิฉันมาคิดดูว่า ด้วยวัยวุฒิของเราเองก็ยังไม่มาก ถ้าคิดจะอยู่ในอาชีพนี้อีกนาน การมีสำนักงานตัวแทนก็เหมือนเป็นหน้าตาของเรา เพราะเราต้องขายความน่าเชื่อถือตรงนี้จะเป็นตัวเสริมการทำงานให้สะดวกขึ้น ยิ่งเวลาเจอกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ เช่น จีน ลาว ที่มาค้าขายกับเรา ก็เป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการเปิดสำนักงาน ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เพิ่มพูนรายได้ให้กับเรา ดิฉันเลยตัดสินใจซื้อที่ตรงนี้และเปิดเป็นสำนักงานตัวแทนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ด้วยเงินที่ได้จากธุรกิจประกันชีวิต”

หลักในการบริหารและหาลูกทีม

         “ความจริงโครงสร้างของบริษัทฯ ดีอยู่แล้ว มีระบบเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่การหาลูกค้า การอบรมตัวแทนใหม่ เข้าฟังวิชาการต่างๆ ตัวสำนักงานเองก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ดำเนินงานไปตามระบบและระบบก็จะจัดวางขั้นตอนให้กับตัวเราเองได้ ส่วนลูกทีมเราก็ดูแลกันแบบพี่ๆ น้องๆ มีปัญหาก็ปรึกษากัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนใหญ่แล้วลูกทีมของดิฉันจะเป็น Part-time เนื่องจากดิฉันทำชิปปิ้งมาก่อน ก็จะหาลูกทีมจากคนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับเรา คือเป็นกลุ่มที่ทำชิปปิ้ง และเจ้าของธุรกิจที่เคยติดต่อด้วย เพราะแทนที่เราจะไปขาย เราก็ไปชวนเขามาเป็นตัวแทนประจำตระกูล ให้เขาไปขายในกลุ่มที่เขารู้จัก ที่เราอาจเข้าไม่ถึง และตอนนี้ก็กำลังสร้างตัวแทนFull-time จากอาชีพต่างๆ ให้เกิดให้ได้เพื่อเราจะได้มีตัวแทนหลากหลายอาชีพเข้ามาทำงานร่วมกับเรา เพื่อที่สายงานของเราจะได้ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว” 

การต่อยอดจากชิปปิ้งสู่ประกันชีวิต

         “จากอาชีพเดิมที่เป็นชิปปิ้ง เราก็จะรู้จักกับกลุ่มชิปปิ้งด้วยกันและอีกด้านนึงก็จะเป็นเจ้าของกิจการต่างๆ ที่เขาทำเกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก ที่ก็ยอมรับว่าดิฉันได้ลูกค้าจากงานเดิมที่ทำอยู่เยอะมาก ปัจจุบันดิฉันได้เข้ามาทำธุรกิจประกันชีวิตอย่างเต็มตัว โดยให้น้องสาวทั้งสองคนเป็นผู้ดูแลกิจการแทน ส่วนตัวดิฉันก็จะใช้วิธีโทรศัพท์คุยกับลูกค้าหรือแวะเยี่ยมเยียนสอบถามเรื่องปัญหาในการทำงานกับลูกค้า เรื่องความพึงพอใจในการบริการของบริษัทฯ ซึ่งก็เหมือนกับการติดตามประเมินผลการทำงานของบริษัทฯ และยังเสมือนว่าได้ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ไม่หายไปไหนแม้ว่าเราจะหันมาดูแลงานทางด้านประกันชีวิตเยอะขึ้น และการทำเช่นนี้ก็ส่งผลให้ได้รับการต่อยอดลูกค้าด้านประกันชีวิตให้เพิ่มขึ้น ทุกวันนี้ก็เท่ากับว่าได้ดูแลงานที่เราทำทั้งสองควบคู่กับไป เพราะงานของเรา คืองานบริการ” 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการเปิด AO

         “หลักจากเปิด AO ก็ทำให้ขายได้เยอะขึ้น มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นห่วงในเรื่องของการ เคลม กลัวว่าพอมีปัญหาแล้วจะเคลมไม่ได้ หรือจ่ายเบี้ยไปแล้วตัวแทนไม่จ่ายให้ตามจริง พอเรามีสำนักงานเป็นของตัวเอง เราก็ยืนยันในเรื่องการบริการเหล่านี้ได้ทำให้มีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น และผลที่ได้รับอย่างแรกเลยคือมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกทางหนึ่ง อย่างที่สองคือ ได้เพื่อน ได้พี่ ได้มิตรภาพที่ดีระหว่างกัน ธุรกิจประกันชีวิตเป็นธุรกิจที่เต็มไปด้วยความรักและความผูกพันกันในครอบครัว และยังมีความห่วงใยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรู้สึกมันมีแต่ให้ จนเมื่อเราได้รับมาแล้ว เราก็อยากให้กลับคืนไปสู่คนอื่นและคืนให้กับสังคมด้วยเช่นกัน” 

กิจกรรมประจำสำนักงาน

         “ปกติก็จะมี Weekly Meeting ทุกวันจันทร์ และจะมีประชุม AL ในสายงาน SUCCESS-B ที่ AO เชียงราย และมีกิจกรรมอื่นๆ ก็จะเป็นกิจกรรมกลางของกลุ่มเช่น Amazing Career, Together Camp ที่จัดขึ้นทุกเดือน” 

เป้าหมายที่ตั้งไว้

         “จากตัวแทนก็เลื่อนมาเป็นผู้บริหารตัวแทน และเปิดสำนักงานตัวแทน เป้าหมายต่อไปในปี 2555 ก็จะเร่งขยายทีมงานให้เพิ่มขึ้นเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการ” 


ชัก
ชวนคนให้เปิด AO

         “สำหรับคนที่ทำธุรกิจประกันชีวิตอยู่ ก็อยากให้มองว่า การทำสำนักงานมันเป็นธุรกิจอีกอย่างหนึ่ง ที่ถือว่าลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนที่กลับมามันมีมากมาย นอกจากตัวเงินแล้ว ยังมีเรื่องความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่นจากลูกค้า ทีมงานที่จะมาทำงานกับเราก็จะมีหลักแหล่ง มีที่ให้เขาอยู่เป็นเรื่องเป็นราว เวลาไปขายลูกค้าเขาก็จะบอกได้ว่ามีสำนักงานอยู่ตรงนี้ ถ้ามีปัญหาอะไรลูกค้าก็สามารถเข้ามาปรึกษาได้ตลอด ลูกค้าก็จะมีความมั่นใจมากขึ้นว่า เมื่อเขาทำประกันแล้วเขาจะไม่ถูกทอดทิ้ง ถ้าตัวแทนคนนี้ไม่อยู่ เขาก็จะมีคนอื่นช่วยดูแลเขาตลอดไป” 

ฝากคำขอบคุณ

         “อยากขอบคุณต้นน้ำ ก็คือคุณกรกมล คุณกัญญา จงไพบูลย์กิจที่เป็นคนชักชวนให้เข้ามารู้จักอาชีพที่วิเศษเช่นนี้ ขอบคุณคุณอริยาภรณ์ พิชญานิธิวัฒน์ ที่เป็นคนคอยอบรมสั่งสอนให้วิชาความรู้เกี่ยวกับประกันชีวิตต่างๆ อีกท่านที่ลืมไม่ได้เลยก็คือผอ.สมภพ บุญกัลยา ท่านเป็นคนคอยสนับสนุนทุกอย่างให้หมดทั้งวิทยากรดีๆ ที่ท่านส่งเข้ามาแนะนำ ทำให้เราได้รับประโยชน์มากมาย แล้วก็ขอบคุณทีมงานที่อยู่ร่วมกัน ฟันฝ่าให้สำนักงานแห่งนี้มีชีวิตชีวา รวมถึงกำลังใจจากครอบครัวที่มีให้มาตลอด ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ดิฉันมาจนถึง ณ จุดนี้ได้ และที่สำคัญต้องขอขอบคุณลูกค้าผู้มีพระคุณทุกๆ ท่านที่ให้ความกรุณาไว้วางใจในตัวดิฉันและทีมงานเสมอมา” 

ข้อคิดถึงคนที่จะก้าวเข้าสู่ประกันชีวิต

         “อย่างแรกคือเรื่องการทำงาน ไม่ว่าจะทำงานอะไร มันจะยากที่ก้าวแรกเสมอ เหมือนเด็กเกิดใหม่ที่เดินยังไม่เป็น อยากให้มองอะไรง่ายๆ ลองเปิดใจศึกษา มีความอดทนที่จะเรียนรู้ เมื่อได้ทำแล้วก็อยากให้รักในงานที่ทำ เพราะถ้าเรารักที่จะทำ ก็จะทำให้เรามีความสุขและสนุกในการทำงาน เมื่อนั้นคุณก็จะพบกับความสำเร็จแน่นอน สำหรับคนที่เข้ามาอยู่ในอาชีพประกันชีวิตนี้ มีแต่คนที่เข้ามาทำแล้วรวยและสามารถที่จะพัฒนาตัวเองเป็นเศรษฐีได้ หากเราคิดจะเป็น” 

คติประจำใจ        

          “เป้าหมายต้องชัดเจนและเดินตามเป้าหมายที่เราวางไว้ อดทนรอแม้จะหนาวและยาวไกล ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นแน่นอนค่ะ”

          ขอบคุณคุณภัทรเนตร สุวรรณดี ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวในธุรกิจประกันชีวิตให้เราฟังในครั้งนี้ ดังเช่นที่ว่า การทำงานทั้ง 2 อย่างควบคู่กัน ถ้าใช้หลักการบริหารที่ดี ก็สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนเศรษฐีบางคน ที่ไม่ได้รวยเพราะทำงานเพียงแค่อย่างเดียว

สมัครเป็นตัวแืทนประกันชีวิต

ที่มา : Ayudhay Allianz C.P. STAR ฉบับที่ 6 ประจำวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 

 
QR CODE Facebook
Twitter
Since 19.10.09
You are here: Home นักธุรกิจประกันชีวิต แม่แบบนักธุรกิจประกันชีวิต เป้าหมายต้องชัดเจนและเดินตามเป้าหมายที่เราวางไว้