เป็นคนเหนือครับ ก่อนที่จะเข้า สู่งานประกันชีวิต เป็นพนักงานของการไฟฟ้า ฝ่ายผลิต ที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ตั้งแต่ ปี 2525 ถึง 2543 ปี 2539 ก็เริ่มเข้ามาเป็ตัวแทนพาสทาม ปี 2543 ก็ เริ่ม ตัดสินใจ มาทำเต็มเวลากับบริษัท เริ่มศึกษางานประกันชีวิต แล้วก็ มองเห็นถึงความจำเป็น แล้วก็ มาเป็นตัวแทน ครับ พอมาเป็นตัวแทน
เรารู้สึกว่าเรามีอิสระ เรามีเวลา เป็นของตัวเอง เรามีรายได้มากกว่าเดิม เรามาทำงานที่ดี กว่าเดิมแล้ว แต่ที่นี่ดีกว่าอีกแล้วเราเป็นอิสระกว่า ตรงนี้เราสามารถส่งต่ออาชีพให้กับลูกเราได้ แต่ที่เดิม ของเรานั้น สมมติเกษียณแล้ว เราไม่สามารถจะเอาลูก ไปนั่นแทนได้ โครงสร้างที่นี่นะครับ ความก้าวหน้าเร็วมาก ครับ เราเริ่มจากตัวแทนก็ เริ่ม ไต่เต้า ขยับขึ้นเป็นผู้บริหารตัวแทน แล้วเป้นผู้บริหารกลุ่ม รายได้ นะครับ
ค่าคอมมิชชั่นเรามีเงินเข้าทุกวัน ถ้าเราส่งงานทุกวัน เราจะมีเงินเข้าทุกวัน หลังจากนั้น ก็จะมีโบนัสทุกเดือน ปีหนึ่งก็ 12 ครั้ง โบนัสไตรมาสปีละ 3-4 ครั้งและโบนัสปีอีก 1ครั้ง รวมแล้วโบนัส ที่นี่ 17 ครั้ง ถ้าเราเป็นผู้บริหาร เราก้ จะมีรายได้เพิ่มเป็น 34 ครั้งก็ คือ ตัวแทน 17% ผู้บริหารตัวแทนอีก 17% ก็เป็น 34 นะครับ นี่คือแค่ 2 ตำแหน่ง แต่ถ้าเราเริ่มเป็นผู้บริหารกลุ่ม เราใส่หมวก 3 ใบ เราก็จะมี คูณ 17 คูณ 3 นะครับ พอก้าว เข้ามาแล้วเราทำจริงจัง มันก็ทำให้เราทำสำเร็จ
แล้วทำให้เราเติบโต ผมเริ่มเป็นตัวแทน แล้วก็ มาเริ่มงานที่แพร่ เนี่ย เพียงคนเดียว ปัจจุบันเราทำให้จังหวัดแพร่มีบริษัทนี้เติบโต มีทั้งหมด 15 ทีมงานและมี 2 สำนักงาน จากที่ไม่มีเลย ก็รายได้ มีเงินสดก็ก้อนใหญ่ แล้วเราก็มีรถยนต์ในฝันที่เรา อยากจะขับมาตั้งนาน แล้ว ราคา 3 ล้าน 7 ก็ ได้มาจากเงิน อาชีพนี้
ก็อยาก จะเชิญชวน ธุรกิจทำอยู่ เข้ามาร่วมกับธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งผมมองว่า ธุรกิจประกันชีวิต เป็นธุรกิจ วิชชั่น ไม่ใช่ธุรกิจ แฟชั่น คือเป็นธุรกิจที่มีอนาคต ผมมองว่า ประกันชีวิตคือ อนาคต ของคนทุกคน คือความมั่นคงแห่งอนาคต เพราะว่า ความเป็นเงินสด ในอนาคต
ผมมองว่า ประกันชีวิต เป็นสิ่งที่ดี ที่เหมาะสำหรับคนที่รักตัวเองและรักครอบครัว ครับ
< Prev | Next > |
---|