ก่อนจะเข้ามาสู่ บริษัทประกันชีวิต ก็เป็นรับราชการพยาบาลมา 15 ปีกว่า อยู่ห้อง ฉุกเฉิน แรงบรรดาล ใจ ได้มาจากเรื่อง รายได้เพราะว่ารายได้ จะไต่เต้ามาจาก 3,000 บาท 15 ปีได้ 2 หมื่น เราก็มองแล้วว่า แล้วเรามองเห็นอีกว่า อีก 60 ปีเกษียนก็คงไม่กล้าจะถึง 7 หมื่น ก็อยากจะหาเรื่องอื่นว่า เข้ามาเราต้องบอกกับตัวเองว่าเราต้องสำเร็จเท่านั้น บอกกับตัวเองตลอดเวลา เวลาสอบตัวแทนก็ต้องการเป็นที่ 1 แล้วก็พอเข้ามาปั๊บนั่นคือความสำเร็จเบื้องต้นคือสอบครั้งเดียวผ่าน ครั้งที่ 2 เราก็ เริ่ม จะสร้างทีมงาน ขายเก่งแล้วเมื่อ มีรายได้เข้ามาเยอะแล้วก็สร้างทีมงาน
วันหนึ่งเราก็เลยได้รับโอกาส จากผู้ใหญ่ของบริษัทว่า น่าจะทำตำแหน่งออฟเดอะเยียร์ ให้กับทีมงานของภาคกลาง เราก็เลยอยากทำตรงนี้ประกอบกับมีแรง บรรดาลใจ อีกข้อหนึ่ง คือ อยากเป็นวิทยากร ในเบื้องต้น ถ้าสำเร็จแล้ว อยากจะเป็นนักแบ่งบันโอกาส ถามผู้รู้ เขาบอกว่า ถ้าอยากเป็นวิทยากรเนี่ย จะต้องเป็นเบอร์หนึ่งของบริษัทเท่านั้น ก็เหมือนกับรางวัลออสก้า หรือ รางวัลใหญ่ ประมาณนั้นนะค่ะ แต่ใน งานขายเราเนี่ยก็ คือ เป็นเบอร์ 1 2 3 ในประเภทต่างๆ เริ่มต้นตั้งแต่ 5 คน ความหมายก็คือ ว่า พี่เป็นตัวแทน แล้วพี่ก็ ผลักดันตัวเองให้เป็นผู้จัดการ เรามีความรู้สึกว่ารายได้จากการเป็นผู้จัดการมันมากกว่าเป็นตัวแทน ปัจุบันตัวแทนก็กว่า 400 คน ก็ทำให้มีโอกาส สร้างคนได้ทั่วประเทศไทยแล้วก็ ทำให้ตัวเองรวยขึ้น และน้องๆ ก็รวยขึ้น เช่นเดียวกัน เป็นการแบ่งปันกันค่ะ
ถือ ว่าบริษัท ดีมากนะค่ะ สนับสนุนทุกอย่างเลย ไม่ว่าในเรื่องของ เริ่มต้นแต่การสอบเอกสารติวสอบก็ มีทุกอย่างแค่ เอาตัว และหัวใจ เข้ามาลงเท่านั้นเอง
สินค้าถือ ว่าเป็นสินค้าที่ เราสามารถวางแผนให้กับ คนทุกเพศทุกวัย แล้วก็ ทุกอายุได้เลยเพราะว่า สินค้าของเราเนี่ย สามารถที่จะเลือกแบบ ตัวเองได้ด้วย นะ ค่ะ งานประกันชีวิต ชวนคนให้
เก็บออมเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดคือ ไว้เป็น กองทุนให้ลูก ตอนที่ลูกต้องการ ใบช่วงมหาวิทยาลัยประกันชีวิตคือ สวัสดิการ แทนที่เราเก็บตังค์ที่แบงค์ เราได้ดอกเบี้ย นิดหน่อย แต่ เก็บตังค์ที่เรา ดอกเบี้ยคือค่ารักษาพยาบาล จากนี้จนกระทั่ง ครบสัญญา
ของเรา และสุดท้ายค่ะ ประกันชีวิตความคุ้มครองภาคภูมิใจ ค่ะที่ทำงานนี้
| < Prev | Next > |
|---|
