คุณนันทกา ขันตีแก้ว
เจ้าของสำนักงานของตัวแทนมอดินแดง จ.ขอนแก่น
ฉบับนี้เรามาเยี่ยมสำนักตัวแทนที่จังหวัดขอนแก่นของคุณนันทกา ตั้งอยู่เลขที่498/12 ม.2 ถ.มิตรภาพ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2553 เป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา 4 ชั้น ใช้งานจริงสองชั้น ชั้นแรกเป็นที่รับรองลูกค้า ส่วนชั้นบนเป็นห้องประชุมและแบ่งเป็นห้องทำงานของผู้บริหาร นับว่าเป็นสำนักงานที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เพราะติดถนนใหญ่ การเดินทางสะดวกอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ซึ่งคุณนันทกาซื้อไว้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ในราคาห้องละสองล้านห้า 2 ห้อง 5 ล้านบาท และตกแต่งเพิ่มเติมอีกประมาณ 2 ล้านบาท
เป็นพยาบาลวิชาชีพมาโดยตลอด
“ดิฉันเกิดที่อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย คุณพ่อมีอาชีพเป็นข้าราชการป่าไม้อำเภอ ส่วนคุณแม่เป็นครู มีลูกทั้งหมด 8 คน ดิฉันเป็นคนที่ 7 พอคุณแม่มีลูกเลยได้ลาออกมาเป็นแม่บ้านแต่คุณพ่อเป็นคนขยันค่ะ หางานพิเศษทำครอบครัวตอนนั้นจึงเรียกได้ว่ามีฐานะปานกลาง ดิฉันเรียนประถมฯ ที่ ออ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย แล้วย้ายมาเรียนมัธยมที่ จังหวัดอุดรธานีเป็นนักเรียนโครงการแลกเปลี่ยน AFS ไปสหรัฐอเมริกา 1 ปี และเอ็นทรานซ์เข้าคณะพยาบาลศาสตร์ ได้ที่มหาลัยเชียงใหม่ พอจบมาจึงเข้าทำงานเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลส่วนดอก จ.เชียงใหม่ ทำอยู่ 2 ปี ก็ย้ายมาแต่งงานกับสามีที่ขอนแก่นเพราะสามี (คุณหมอณรงค์) เป็นศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาลศรีนครินทร์ และเป็นอาจารย์หมอที่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดิฉันจึงย้ายมาเป็นพยาบาลประจำวอร์ดเด็กแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนด ตอนทำงานช่วงแรกก็สนุกดีค่ะ ได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาเต็มที่ แต่พอช่วงหลังได้ย้ายไปเป็นพยาบาลหัวหน้าหน่วยควบคุมโรคติดต่อเชื้อ ซึ่งเป็นงานที่กว้างมาก ต้องทำงานอยู่กับคนหลายฝ่ายเรียกว่าช่วงนั้นต้องปรับตัวเยอะ และเนื่องจากโครงสร้างหน่วยงาน และ Career Path ไม่ชัดเจน จึงได้ลาออกจากอาชีพพยาบาล หลังจากทำงานมา 10 ปี”
จากอาชีพพยาบาลมาเป็นร้านอาหาร
“ตอนที่ลาออกจากโรงพยาบาลศรินครินทร์ช่วงนั้นสามีก็เปิดคลีนิกอยู่แล้ว ดิฉันคิดว่าช่วยคุณหมอทำคลีนิกก็น่าจะเพียงพอเพราะคนไข้เยอะมากโดยเฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์ แต่ต่อมาจึงรู้สึกว่าตัวเองว่างมากเกินไป คิดว่าเราน่าจะทำอะไรได้อีก เลยกับไปทำงานเป็นพยาบาลอีกครั้งที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ทำอยู่ 2 ปีก็ลาออก เพราะเขาเปลี่ยนระบบโครงสร้างผู้บริหารใหม่ ต้องปรับอะไรกันใหม่หลายๆอย่าง เลยตัดสินใจออกมาทำร้านอาหารต่อจากญาติที่เขาเลิกทำ แต่เดิมนี้ญาติเป็นคนทำอยู่ที่ดินของเรา แต่พอเขาไม่ทำต่อ เราก็รู้สึกเสียดายและคิดว่าถ้าเปิดร้านอาหารต่อมันก็น่าจะพอไปได้ อีกอย่างมันเป็นที่ดินของเราเองด้วย ไม่ต้องเสียค่าเช่าอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ดิฉันมีความรู้เรื่องการบริหารน้อยมาก ก็กลัวว่าจะจัดการร้านอาหารไม่เป็น ตอนที่ไปเปิดร้านจึงไปเรียน MBA เพิ่มเดิมเพราะต้องการความหมั่นใจในเรื่องการบริหารธุรกิจ จากตอนนั้นถึงตอนนี้เปิดมาได้ 14 ปีแล้วค่ะ”
รู้จักอยุธยาอลิอันซ์ ชี.พี. ได้อย่างไร
“ประมาณปี 2550 ช่วงต้นๆ ปี คุณรัชนก เหพลชม ได้มาขอนัดพบดิฉันในร้านแห่งนี้ เธอเข้ามาอธิบาย และชวนให้เข้าค่าย New Life ตรงในเป็นจุดที่เปิดใจเราได้เป็นครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่ามันมีสอนวิชาชีวิตแบบนี้เลย มันทำให้เรารู้ตัวเราเองว่าทำอะไรได้อีกตั้งหลายอย่าง ก็เลยเริ่มคิดที่จะกำหนดชีวิตของตังเอง ไม่ใช่ปล่อยให้สิ่งแวดล้อมเป็นตัวกำหนด ดิฉันสนใจจึงเข้ามาศึกษาหลักสูตรของบริษัทฯ”
ความคิดเห็นเกี่ยวกับประกันชีวิต
“คิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกคนต้องมีนะคะ ไม่ด้วยผลใดก็เหตุผลหนึ่ง เป็นการแบ่งเบาภาระของสังคมด้วย ปัจจุบันมีผู้ถือกรมธรรม์อยู่แค่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์เอง ตลาดยังมีช่องว่าง และหลายๆคนก็รอเราอยู่ ดิฉันรู้จักประกันชีวิตค่อนข้างดีเลยค่ะ เพราะมีพี่สาวคนหนึ่งเป้นตัวแทนประกันชีวิตระดับผู้บริหารแต่อยู่อีกบริษัทหนึ่ง เขาเคยชวนให้ไปเป็นตัวแทนในทีม ดิฉันก็ไปสอบให้ แต่ไม่ได้สนใจเพราะช่วงนั้นเป็นพยาบาลวิชาชีพอยู่ ส่วนประกันชีวิตดิฉันเองก็เคยซื้อไว้หลายฉบับ เพราะคิดว่าเป็นการเก็บออม และลดหย่อนภาษีได้ด้วย คือพี่สาวนอกจากจะชวนให้ซื้อประกันแล้วยังจะให้ดิฉันไปเป็นตัวแทน แต่ด้วยใจของดิฉันอยากทำธุรกิจากกว่าที่จะออกไปเดินขายจึงไม่สนใจข้อเสนอของพี่สาว แต่พอมาเจอข้อเสนอของคุณรัชนก เขาไม่ได้ชวนให้เราซื้อหรือขายประกัน แต่ชวนให้มาทำธุรกิจเป็นผู้บริหารร่วม ก็เลยสนใจค่ะ”
เริ่มต้นจากการเป็นผู้บริหาร
“ช่วงแรกๆก็มีสับสนอยู่บ้าง บ้างครั้งก็รู้สึกท้อมักมีคำถามว่า ณ จุดนี้ใช้เราหรือเปล่า เคยถามตัวเองอยู่ตลอดเลยในช่วงแรก แต่ก็ไม่เหนื่อยนะ เพราะตัวเองเป็นคนที่ชอบทำอะไรหลายอย่างอยู่แล้วไม่ชอบอยู่เฉยๆก็ค่อยปรับความคิดเป็นระยะๆว่าใช่ไหมๆ พอเวลาผ่านไปก็เริ่มรู้สึกว่ามันใช่นะ ส่วนสามีช่วงแรกไม่ค่อยเห็นด้วย เป็นประเภทไม่สนับสนุนแต่ไม่ว่า เขามาบอกทีหลักว่าลึกๆแล้วเขารู้สึกเสียใจ เพราะคิดว่าทำไมเราต้องไปทำอย่างอื่นด้วย ในเมื่ออาชีพของเขาหมั่นคงพอที่จะเลี้ยงดูเราได้อยู่แล้ว คงประมาณว่าเสียความรู้สึก แต่พอหลังจากดิฉันชวนสามีให้ New Life เขาได้เห็นบรรยากาศและรับรู้การถ่ายทอดของวิทยากร คือ คุณสรรค์ชัย ลาภสัม-ปันน์ชัย จึงได้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทฯและธุรกิจพอเข้าใจก็เข้ามาช่วย Recruit ช่วยปรับทัศนคติเกี่ยวกับประกันชีวิตของคนที่เราจะเข้าไปหา ก็นับว่าช่วยดิฉันได้เยอะเลยค่ะ”
หันมาเปิดสำนักงานตัวแทนเป็นของตัวเอง
“ตอนปลายปี 2550 ประมาณเดือนพฤศจิกายน ดิฉันขึ้นเป็นผู้บริหารหน่วย และก็ได้รหัสสำนักงานในเดือนนั้นเลย คือนโยบายของกลุ่มคุณรัชนก จะสนับสนุนเอโอเลย เพราะจะได้บริหารทีมงานได้ง่ายขึ้น แต่ก่อนแม่ทีมของเราอยู่นครพนม เวลาส่งงานก็ต้องส่งรถทัวร์มันลำบาก และด้วยตัวดิฉันมีตึกพร้อมอยู่แล้ว ซื้อไว้เมื่อ10 กว่าปีที่แล้ว เป็นอาคารพาณิชย์ 4ชั้น 2 คูหาตั้งอยู่ในทำเลที่ดีทีมงานก็มีพร้อม ตอนนั้นมีอยู่ 1 หน่วยแต่คิดว่าสามารถทำได้ จึงตัดสินใจเปิดสำนักงานเป็นของตัวเองเพื่อให้บริการทีมงานได้สะดวกขึ้น เมื่อมีความหมั่นใจและมีความพร้อมเต็มที่ จึงได้ทำพิธีเปิดสำนักงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2553”
หลักในการบริหารเอโอ
“ที่ยึดหลักก็คือว่า ดิฉันจะสอนให้ทีมงานคิดบวก เป็นองค์แห่งการเรียนรู้ ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และก็มี 2T คือ Trust & Team คือต้องทำงานด้วยความไว้วางใจกัน และทำงานด้วยกันเป็นทีม โดยเราจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องแคชเชียร์ เรื่องธุรการ และเรื่องจัดกิจกรรม ก็จะกระตุ้นลูกทีมให้เขาอยู่ในบรรยากาศ มีโมเมนตั้มตลอด คือวันพฤหัสตอนเย็นจะ มี Weekly Meeting ชวนทีมงานเข้ามาเจอะเจอกันมาฝึกพูดและให้กำลังใจกัน และเราก็มีประชุม Staff AO ทุกเช้าวันอังคาร นอกจากนั้นก็มีกิจกรรมร่วมกับบริษัทฯ บ้าง เช่น Amazing Career บ่อย แต่ช่วงหลังเราหันมาทำ New Life Camp เราก็แพลนไว้เดือนละครั้ง ก็จัดกันเองนะ แต่ก็เปิดให้ทีมอื่นเข้ามาร่วมด้วย ไม่ได้จำกัดว่าเป็นแค่กลุ่มของเรา”
เป้าหมายอนาคต
“ตอนนี้มีอยู่ 11 หน่วยค่ะ ตัวแทนประกันร้อยคน ตั้งใจจะสร้างทีมงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งๆขึ้น เพื่อให้มีคนคุณภาพมาร่วมทำงาน อยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะยกระดับคนประกันชีวิตให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และมีชีวิตที่หมั่นคงสามารถช่วยเหลือ ตัวเอง ผู้อื่น และสังคมได้”
สิ่งที่ได้จากการอยู่ในวงการประกันชีวิต
“อย่างแรกเลยคือได้ปรับบุคลิกภาพ ได้พัฒนาตัวเอง พัฒนาวิธีคิดวิธีทำงาน ได้กัลยาณมิตรได้เพื่อนที่ดี ได้รู้จักคนหลากหลายอาชีพ คนดียังรออยู่อีกเยอะ ได้เพื่อนเยอะขึ้น แล้วก็ได้ท่องเที่ยวต่างประเทศ ดิฉันเพิ่งเข้าใหม่ก็ได้ไปมาแล้ว 2-3 ประเทศ และที่สำคัญรายได้ที่ดีเพิ่มขึ้น มันเป็นความภูมิใจที่เกิดจากความตั้งใจในการทำงานของเราค่ะ”
ฝากข้อคิดถึงตัวแทนที่เข้าใหม่
“ประกันชีวิตมันเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความรักความห่วงใย ความปรารถนาดี ขอให้คุณคิดถึงอุดมการณ์ แล้วถึงจะอยู่ในธุรกิจตรงนี้ได้นาน ถ้าคุณเข้ามาแล้วคิดถึงแต่รายได้ จะทำให้เข้ามาเร็วและออกไปเร็ว แต่ถ้าเข้ามาแล้วคิดดีและส่งต่อสิ่งดีๆ แบบนี้ให้คนอื่นไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหรือทีมงาน ให้เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ให้ก่อน จากนั้นเราจะได้รับในสิ่งที่เราให้กับคนอื่นกลับมาเอง อย่างดิฉันทำก็เริ่มจากการให้มาตลอดเลย แล้วผลมันก็สะท้อนกลับมาดีอย่างทุกวันนี้”
คติประจำใจ
“จะเป็นประโยชน์ว่า “Nothing is beyond my ability” ไม่มีอะไรที่จะเกินความสามารถของเราได้”
เห็นด้วยไหมคะกับคติพจน์ที่คุณนันทกาให้ไว้เพราะถ้าเรามีความตั้งใจจริง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ก็คงไม่มีอะไรที่เราจะทำไม่ได้ อย่างไรเสียแต่ถ้าใครแวะผ่านไปแถวขอนแก่น อาจลองแวะไปอุดหนุนร้านอาหารครัวริ่มน้ำ ของคุณนันทกาได้นะคะ พบกับฉบับหน้ากับสำนักงานตัวแทนที่กำลังทะยอยเปิดใหม่ขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา : Ayudhay Allianz C.P. STAR ฉบับที่ 5 ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2554
< Prev | Next > |
---|