หลังจากจบมหาวิทยาลัยกรุงเทพในปี พ.ศ.2531 ก็ได้ช่วยกิจการครอบครัวด้านไม้แปรรูปและได้เป็นเจ้าของกิจการจำหน่ายอะไหล่สิ่งทอและด้วยความบังเอิญได้มาเจอคุณสง่า พิชญังกูร (CAO ในปัจจุบัน) ก็ถูกชักชวนให้มาทำงานด้านประกันชีวิต
เมื่อได้เข้ามาเรียนรู้แบบประกันในปี 2532 ทำงานเพียงแค่สามเดือนสามารถซื้อรถยนต์คันแรกและยังได้รับการอบรมด้านบุคลิกภาพ เทคนิคการขาย ในปีนั้นก็สามารถพิชิตคุณวุฒินักขายยอดเยี่ยมอันดับสี่ทั่วประเทศ สมันนั้นจบปริญญาตรีใหม่ๆ เงินเดือนแค่ 6,000 ก็เยี่ยมแล้ว
เพียง 5 เดือน ก็พิชิตคุณวุฒินักขายยอดเยี่ยม, นักชายมือใหม่มือทอง, คุณวุฒิสัมมนาที่ประเทศอเมริกา(ซานฟรานซิสโก), นักขายประจำไตรมาสทุกไตรมาสและอีกมากมาย ในปี พ.ศ.2535 ก้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการหน่วย และยังได้รับคุณวุฒิมากมาย ที่สำคัญก็ได้ให้ของขวัญกับตัวเองเป็นรถเบนซ์ป้ายแดงในปี พ.ศ.2541
อาชีพนี้ให้ทั้งความสำเร็จมากมาย ได้เป็นนายของตัวเอง บริหารเวลาเอง ทำให้มีเวลาให้กับครอบครัวและคนรอบข้างอีกทั้งไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงซึ่งทำธุรกิจอาจมีขาดทุนแต่งานประกันชีวิตไม่มีขาดทุน เพียงแค่ลงมุนด้านเวลา การเรียนรู้ ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อยตามแต่เราเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตของเราเอง
หลักในการทำงานตลอดระยะเวลา 24 ปี คือ KASH
1. K-Knowledge ความรู้ที่ถ่องแท้หมั่นศึกษาตลอดเวลาจากบริษัทและคนที่สำเร็จ
2. A-Attitude ทัศนคติที่ดีกับประกันชีวิตกับคนรอบข้างและกับลูกค้าต้องถูกต้องและสวยงาม
3.S-Skill หมั่นพบลูกค้าสม่ำเสมอ ทำอย่าหยุดจพนำมาซึ่งทักษะและความเป็นมืออาชีพ
4. H-Habit เราต้องควบคุมการทำงานด้วยตนเองโดยสร้างนิสัยหรือระเบียบวินัยในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
และทั้งหมดนี้ก็คือหัวใจการทำงานในอาชีพนั้ ซึ่งผมคิดว่าใครก็ตามทำได้ก็สามารถอยู่ในอาชีพนี้ได้ไปตลอดชีวิต
ข้อคิดจากคุณธนกฤต อาสภาสกุลเดช
ที่มา : ALLIANZ AYUDHYA ASSURANCE STAR ฉบับที่ 7 ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2556
| < Prev | Next > |
|---|
