เจ้าของสำนักงานตัวแทนบ่อวิน
คุณชัญญาพัชญ์ หิรัญปวันรัตน์
ผู้จัดการภาค SUCCESS TG4M
สำนักงานตัวแทนน้องใหม่ของ STAR MAGAZINE ฉบับนี้ เพิ่งเปิดมาเดือนเศษๆ เจ้าของคือ คุณชัญญาพัชญ์ หิรัญปวันรัตน์ ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เหมาะสำหรับการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นทำเลที่ดี มูลค่าที่ดินรวมตกแต่งแล้วเกือบ 4 ล้านบาท
ชีวิตก่อนเข้าสู่ธุรกิจประกันชีวิต
“ดิฉันเกิดที่ศรีราชา จ.ชลบุรี มีพี่น้อง 4 คน เป็นผู้หญิงหมด แต่ก่อนครอบครัวทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง แต่ธุรกิจพลิกผัน ทำให้ขาดทุนมากคุณพ่อคุณแม่จึงหันมาค้าขาย โดยการขายผักส่งให้กับแม่ค้าที่อยู่ในตลาด ตอนนั้นดิฉัน เรียนอยู่ ปวช.คุณแม่ก็มาเสียชีวิต พวกเราพี่น้องจึงช่วยกันสานต่องานของคุณแม่ ดิฉันกับพี่สาวต้องสลับกันทำงานและหาเงินเรียนไปพร้อมๆกัน แต่งานค้าขายเป็นงานหนักต้องนอนดึก ตื่นเช้า ทุกคนเหนื่อยกันมาก เราจึงตัดสินใจเลิกค้าขายและแยกย้ายกันไปทำงานอื่นตัวดิฉันเองมาทำบริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมกับหาเงินเรียนไปด้วย พอจบปวช. ก็ส่งตัวเองเรียนต่อจนจบปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏฉะเชิงเทรา จบมาก็มาเป็นเลขาฯ บริษัทมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในนิคมอมตะนคร ชลบุรี ตอนนั้นมีความคิดว่า ตำแหน่งเลขาฯไม่มีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน จึงขอย้ายมาฝ่ายบุคคล ในที่สุดได้เป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล ตอนนั้นดิฉันได้เงินเดือน 3 หมื่นบาท สมัยเมื่อ 8 ปีที่แล้วทำให้เราสามารถดูและครอบครัวได้เป็นอย่างดี แต่ภาพรวมที่ทุกคนมองเห็นคือ เราทำงานในบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียง สวัสดิการดี เงินเดือนสูง แต่ความจริงแล้วภายในบริษัทก็ยังมีการจ้างคนออกบ้างในระดับผู้จักการถึงแม้จะเป็นคนเก่ง แต่ความที่อายุมากขึ้น ทำให้บางครั้งการติดต่อสื่อสารกับคนอายุน้อยไม่ตรงกัน การทำงานไม่ราบรื่นบริษัทจึงต้องจ้างออก ตรงนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกว่า ความมั่นคงที่ไหนๆ ก็ไม่ได้มั่นคงเสมอไปและจุดเปลี่ยนทำให้ดิฉันตัดสินใจลาออกจากบริษัทคือ คุณพ่อป่วยกะทันหันในเช้าวันหนึ่งจนลุกไม่ได้ เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว แต่ดิฉันไม่สามารถไปหาคุณพ่อได้ เพราะวันนั้นเป็นวันที่เงินเดือนออก และเรามีหน้าที่รับผิดชอบต้องอนุมัติการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานทั้งหมด จำได้ว่าวันนั้นดิฉันถามหัวหน้าว่า ถ้าบริษัทขาดเรา ไม่กี่วันก็หาคนใหม่มาแทนเราได้ แต่ถ้าเราขาดพ่อ บริษัทไม่สามารถหาให้เราได้ นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ดิฉันคิดว่า ในวันนี่ที่เรายังมีความสามารถ มีแรงที่จะทำงาน หากจะล้มและลุก ก็คงทำได้หลายครั้งแต่ถ้าสมมติว่าว่าวันหนึ่งเราอายุมากขึ้น แล้วบริษัทจ้างให้เราออก เราจะไปทำอะไร ถ้าล้มแล้วจะลุกได้ตอนไหน ดังนั้นดิฉันจึงตัดสินใจลาออกมา เพื่อที่หากจะล้มก็คงลุกด้วยตัวเองได้ในตอนที่ยังมีแรงดีกว่า”
เริ่มธุรกิจใหม่กับร้านกาแฟสด
“หลังจากลาออกจากบริษัทโดยยังไม่รู้จะทำอะไร ดิฉันก็หันมาเปิดร้านขายกาแฟสดและเบเกอรี่ เพราะตอนนั้นกาแฟสดกำลังบูมมาก ใครๆก็เปิด ที่จริงธุรกิจนี้ไปได้เรื่อยๆนะ แต่ร้านกาแฟต้องคอยเฝ้า ไม่มีวันหยุด ไม่มีสังคม และตอนนั้นเพิ่งจะ 30 นิดๆ ความที่อยากมีสังคม ก็ตัดสินใจเซ้งร้านและมาอยู่บ้านเฉยๆ ค่อยๆ คิดว่าจะทำอะไรต่อ ดิฉันเป็นคนที่ถ้าคิดอะไรจะทำเลย อย่างการเซ้งร้าน ดิฉันคิดว่าถ้าเซ้งตอนที่ร้านยังดีอยุ่ จะทำให้ได้ราคาดีกว่าไปตัดสินใจในช่วงที่ธุรกิจกำลังตกต่ำลง เมื่อถึงตอนนั้นคงไม่มีใครอยากซื้อ”
รู้จัก อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ได้อย่างไร
“ตอนแรกดิฉันไม่เคยรู้จัก อลิอันซ์ อยุธยา เลย รู้จักแต่ประกันชีวิตจากบริษัทที่มีชื่อเสียงบริษัทหนึ่ง เพราะความต้องการจะทำประกันชีวิตให้คุณพ่อ จึงไปสอบเพื่อต้องการจะลดค่าคอมในการซื้อประกัน แต่ก็ไม่ได้ส่วนลด เขาบอกว่าโค๊ตที่สอบยังไม่ออก ก็ไม่เป็นไรไม่ได้สนใจมากนัก สอบมาดิฉันก็ไม่ได้ขายใครเลย เพราะไม่ชอบเป็นตัวแทนช่วงที่ว่างงานยังไม่รู้จะทำอะไร น้องสาวก็มาชวนให้ไปเป็นเลขาของคุณกัณฑ์นณัฐ ถิระพุทธิชัย ทำให้รู้จัก อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต แต่ความที่ฉันไม่ชอบทำงานประจำ จึงเสนอไปว่า ขอไม่เป็นตัวแทนเวลาในการทำงานไม่บังคับ มีอิสระในการทำงาน ก็ตกลงกันว่าถ้ามีประชุมที่ไหน เราต้องไปด้วย ซึ่งในความจริงดิฉันชอบวิชาการอยู่แล้ว ชอบการเรียนรู้ แต่ไม่ชอบเรื่องซื้อๆ ขายๆ ดังนั้นดิฉันจึงได้ทำงานเลขาอยู่พักหนึ่ง”
สนใจธุรกิจประกันชีวิตเพราะอยากเที่ยวฟรี
“ดิฉันเชื่อว่าที่อยู่ในธุรกิจ ประกันชีวิตมาได้ทุกวันนี้เพราะการสอนและวิชาการต่างๆ จากที่เคยเข้าร่วมฟังมา รวมทั้งการพัฒนาตัวเราไปพร้อมๆกันด้วย ตอนนั้นดิฉันคิดว่าทำอะไรก็ทำไปก่อนและเผอิญช่วงนั้นมีคุณวุฒิฮ่องกง ด้วยความที่อยากไปเที่ยวฟรี อยากไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม เพราะเคยนัดจะไปกับเพื่อนหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ได้ไปสักที กลับมาลองคิดหนึ่งคืน รู้สึกท้าทายนิดๆ ว่าเหลือเวลาแค่ 15 วัน เราจะหาคนพอติดคุณวุฒิหรือเปล่า จึงไปขอให้เพื่อนช่วย ซึ่งเพื่อนๆก็ยินดีช่วยเต็มที่ ทำให้เราติดคุณวุฒิได้และได้ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมสมใจ”
ความก้าวหน้าในอาชีพ
“แรกๆ มีบ้างที่ปรับตัวไม่ได้ เพราะติดคุณวุฒิทำให้ขึ้นหน่วยได้เร็วเพียงแค่ 3 เดือน พอยอดมาแล้วก็ให้เพื่อนช่วยไปสอบให้อีกทำให้ดิฉันขึ้นหน่วยได้เลย ตอนนั้นมีเพื่อนมาชวนทำธุรกิจประมูลรถบัสรับส่งพนักงาน โดยให้ดิฉันไปช่วยบริหาร ดิฉันก็มีข้อแม้ว่าห้ามมากำหนดเวลาการทำงาน ซึ่งเพื่อนก็ตกลง พอช่วยได้ปีกว่าๆ ก็ต้องประมูลรอบใหม่ เพื่อนก็มาเสนอให้ดิฉันร่วมลงทุนร่วมด้วย โดยการกู้มาก่อน 18 ล้าน และจะแบ่งรายได้คนละครึ่ง ดิฉันคิดว่าถ้าเราจะต้องลงทุนร่วมด้วย โดยการกู้มาก่อน 18 ล้าน และแบ่งรายได้คนละครึ่ง ดิฉันคิดว่าถ้าเราจะต้องลงทุน โดยการเป็นหนี้ตั้งแต่ตอนแรกเลย ทำไปธุรกิจก็ไม่ใช่ของเรา จึงกลับมาทำงานกับคุณกัณฑ์นณัฐซึ่งเรียกให้มาช่วยสัมมนา และจุดหักเหที่ทำให้ดิฉันเลิกการทำธุรกิจรถ มาอยู่ที่อลิอันซ์ อยุธยา ก็เพราะคุณแม่ของน้องคนหนึ่ง มาฝากให้เราดูแลและขัดเกลาลูกของเขาให้หน่อย คือคุณปฐมพงศ์ สาตสุข (ปัจจุบันเป็นผู้บริหารหน่วย STG4M) ก็เหมือนเรามีลูกที่จะต้องคอยดูแลเขาตลอด จึงตัดสินใจเลิกทำกับเพื่อน และมาอยู่ที่อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จากตรงนั้นมาถึงตรงนี้ 4 ปีได้ค่ะ”
ความแตกต่างระหว่างธุรกิจ
“ตอนทำธุรกิจรถนั้น เราแค่บริหารให้เขาไม่มีการกำหนดเวลาการทำงาน ได้เป็นเงินเดือน แต่พอมาเริ่มต้นธุรกิจประกันชีวิต รายได้ต่างกันเป็นเท่าตัว เข้ามาดิฉันก็หาลูกค้าได้นะ เพราะถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรถ้าตัดสินใจที่จะทำ และทำอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับตัวเรา เมื่อตัดทุกอย่างทิ้งเหลือเพียงอย่างเดียว ยังไงมันก็ต้องทำและต้องทำให้ได้ เหมือนเป็นการบังคับตัวเราไปในตัว และงานประกันชีวิตนี้ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องเป็นหนี้ มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้สบาย”
ตัดสินใจเปิด AO
“ตอนแรกๆ ดิฉันมีอยู่ 4 หน่วย รวมเราก็เป็น 5 มาเมื่อปีที่แล้ว โดนตัดไป 3 หน่วยเหลือ 2 ด้วยความที่เพราะเราไม่ได้ทำงานมากนักจึงมาเริ่มคิดเมื่อตอนต้นปีนี้เองว่า คงถึงเวลาที่เราจะต้องทำให้เป็นทีม เพราะการเปิดสำนักงานทำให้เรารวมตัวกันง่าย ได้เจอกันบ่อยอย่างคนอยู่ไกลๆ อาจไม่อยากมาเข้าวิชาการที่อยู่ในเมือง แต่ถ้าเราเปิดสำนักงานที่นี่ คนที่อยู่ไกลก็จะมาได้ง่ายขึ้น”
การเลือกที่ตั้งสำนักงาน
“ที่ดิฉันเลือกเปิดตรงนี้เพราะยังไม่มีใครมาเปิดเป็นสำนักงานตัวแทน ปกติเขาให้เช่าอยู่ 20,000 ถึง 25,000 ซึ่งแพงมาก และถ้าเช่าไปเมื่อตกแต่งเสร็จมันก็ไม่ใช่ของเราอีก แต่เนื่องจากทำเลดี ใครๆ ก็จ้องที่จะเอา แต่เราอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เอาเองล่ะ และถ้าเราไม่เริ่มต้นทำซะวันนี้ ยังไงวันหน้าเราก็ต้องทำอยู่ดี พอดิฉันมาเห็นที่ตรงนั้นจึงตัดสินใจซื้อเลย 3 ล้านกว่า ตกแต่งอีก 4 แสน มี 3 ชั้น แต่จะใช้อยู่แค่ 2 ชั้นข้างบนเป็นห้องทำงานกับห้องประชุม แต่ส่วนใหญ่ดิฉันจะอยู่ข้างล่างกับลูกทีมมากกว่า”
วางเป้าหมายไว้
“คือปีนี้เปิดสำนักงานตัวแทนได้แล้ว ปัจจุบันมี 5 หน่วย ก็คิดไว้ว่าจะต้องทำหน่วยใต้สังกัดเพิ่มให้ได้อีก 5 หน่วย และจะขึ้น AVP ให้ได้ในปี 56 ค่ะ”
กิจกรรมในสำนักงาน
“AO เราเพิ่งเปิดมาได้เดือนกว่า อยู่ในช่วงการปรับตัว ก็พยายามให้ลูกทีมมาเข้าวิชาการ โดยจัดประชุมที่นี่ เป็นการสอนการขายประกันขั้นพื้นฐานให้กับตัวแทนที่เข้ามาใหม่ เพราะปกติวิชาการหลักๆทางสำนักงานแม่จัดเป็นประจำอยู่แล้ว ของเราเหมือนเป็นการเสริมข้อมูล แต่ทุกวันพฤหัสตอนเย็น ถ้ารวมกลุ่มมาได้สัก 7-8 คน ดิฉันก็จะสอนเรื่องผลประโยชน์เบื้องต้น วิธีการหาลูกค้าต่างๆ เป็นต้น”
ฝากข้อคิดถึงตัวแทนรุ่นใหม่
“ดิฉันคิดว่าตัวแทนรุ่นใหม่มีความอดทนน้อย ก็อยากฝากให้มีความอดทนทำงานอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้วันนี้ยังไม่ได้ แต่ถ้าเราทำงานอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ยังไงวันหนึ่งมันก็ต้องได้อยู่แล้ว เมื่อภาวะทางอารมณ์ที่อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ มันก็จะไม่สำเร็จ แต่ถ้าเราทำอะไรอย่างต่อเนื่องจริงจังให้เป็นนิสัย ยังไงมันก็ต้องสำเร็จสักวันหนึ่ง ปัจจุบันธุรกิจประกันชีวิตมีการแข่งขันสูง ตัวแทนที่เข้ามาใหม่เมื่อไปพบลูกค้าและพบว่าทำประกันอยู่แล้วก็หยุด แต่ไม่ได้คิดต่อไปว่าลูกค้าอาจจะอยากทำเพิ่ม หรือทำตัวใหม่ เพราะจริงๆ คนที่เห็นคุณค่าของการทำประกันชีวิตยังมีน้อย สัดส่วนคนที่ยังไม่มีประกันยังมีอีกมาก ถ้าเขาคิดตรงนี้และมีความมุ่งมั่นที่จะหาลูกค้าต่อ สักวันหนึ่งเขาก็จะสำเร็จ”
คนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
“คนแรกเลยที่ถือเป็นต้นน้ำของดิฉัน ทำให้ดิฉันมาอยู่ในธุรกิจนี้ในธุรกิจนี้ได้ก็ต้องขอขอบคุณคุณกัณฑ์นณัฐ ถิระพุทธิชัย ผู้อำนวยการฝ่ายขายที่ช่วยขัดเกลา สั่งสอน และคุณธัชชัย สุขดี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายที่ให้ข้อคิดกับดิฉันว่า ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าแค่วันนี้เราจะสำเร็จอย่าเรียกร้องความสำเร็จเร็วเกินไป ขอบคุณคุณครูสรรค์ชัย ลาภสัมปันน์ชัย ประธานสายงานบริหารช่องทางขายผ่านตัวแทนเวลามีวิชาการของท่าน เมื่อไปฟังแล้วดิฉันจะมีพลังกลับมาทำงานเสมอ แล้วก็คุณอนันต์ เข็มทอง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายขายที่ถือเป็นต้นน้ำสายแรกในภาคตะวันออก เพราะถ้าไม่มี ดิฉันก็คงไม่ได้มาอยู่ ณ ที่นี่ คุณกฤษดา กิตติทัศน์เศรณี ผู้อำนวยการฝ่ายตัวแทนท่านมีน้ำใจมากเพราะท่านดูแลกรุงเทพฯ แต่พอเราขอความช่วยเหลือหรือขอคำแนะนำไป ท่านจะยินดีและช่วยเหลือเต็มที่ ขอบคุณทีมงาน AMT ภาคตะวันออก คุณวิกร ฐิติกวิน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตัวแทน คุณไชยวัฒน์ กิตติโสภีพร ผู้อำนวยการฝ่ายตัวแทนและคุณเมธี ปรีชาวรรณ ขอบคุณครอบครัวที่เลี้ยงดูและสร้างสรรค์ให้เราเป็นอย่างทุกวันนี้ ขอบคุณน้องสาวที่อยู่ช่วยเรามาโดยตลอด ขอบคุณลูกค้าทุกๆท่านที่ให้การสนับสนุนดิฉันเป็นอย่างดี และ ขอบคุณทีมงานทุกคนที่อยู่เคียงข้างเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องด้วยกันมาจนมีวันนี้ได้ ขอบคุณจริงๆค่ะ”
เห็นความตั้งใจเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่นในการทำงานของคุณคุณชัญญาพัชญ์ หิรัญปวันรัตน์แล้ว คงเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้ใครหลายๆ คนสนใจ อยากเปิดสำนักงานตัวแทนกันบ้างนะคะ
< Prev | Next > |
---|