มีหลายท่านที่มีความสนใจอยากจะทำประกันสุขภาพ กลัวเวลาตัวเองป่วย เข้าโรงพยาบาลจะไม่เงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล กังวลต่างๆ นาๆ กังวลว่าจะทำอย่างไรที่คิดว่าเราเลือกดีที่สุดแล้ว กลัวคนรอบข้างตำหนิได้ จะเอาอะไรมาวัดความคุ้มกับเงินทองที่หาแสนยากเพื่อจะซื้อประกันสักฉบับ แล้วที่ได้ล่ะ จะให้ได้บริการที่ดีที่สุด ต้องเปรียบเทียบหลายที่ จนแล้วจนรอดก็เลือกไม่ได้สักที ไปๆ มาๆ เจ็บป่วยเสียก่อน ทำให้ประวัติเสีย บริษัทประกันไม่รับประกัน เพราะมั่วแต่เสียเวลากับการตัดสินใจ จะทำไม่ทำ จะทำไม่ทำ
ขอแนะนำไอเดียที่จะเลือกประกันสุขภาพ ดังนี้
1. ศึกษาแบบประกัน แบบนี้คุ้มครองอะไรบ้าง ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง จะครอบคลุมทันทีหรือต้องรอให้อยู่ในช่วงใดที่เรียกว่า ระยะเวลารอคอย
2. ระยะเวลาประกัน ความคุ้มครองที่สามารถซื้อประกันสุขภาพได้เมื่ออายุมากขึ้นหรือไม่ เช่น บริษัทประกันส่วนใหญ่ ที่ขายประกันสุขภาพซื้อได้ถึงอายุ 60 ปี ถามว่าพออายุ 60 แล้ว ไม่สามารถซื้อประกันสุขภาพได้ และเมื่อไม่มีประกันสุขภาพ นึกดูให้ดีว่าตอนอายุ 60 ปีเนี่ย โรคภัยไข้เจ็บเป็นเพื่อนแท้กับวัยนี้เลย ค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพจะมาอันดับที่หนึ่งเลยก็ว่าได้
: การหาประกันสุขภาพ ควรดูว่าบริษัทนั่นๆ คุ้มครองสุขภาพถึงอายุเท่าไร ????
3. การทำประกันสุขภาพที่มีประกันแบบผู้ป่วยนอก OPD ก็จะมีประโยชน์กว่า เพราะตามหลักจิตวิทยา คนเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากนอนโรงพยาบาล มองเผื่อไว้ก็ดี ปีนี้ไม่ได้ซื้อไว้ แต่คิดอีกนิด ถ้าแก่ๆ แล้วควรมีไว้เป็นทุนสำรองในอนาคตยามแก่เฒ่าต้องได้ใช้
4. ตรวจสอบโรงพยาบาลที่เข้าร่วม แบบไม่ต้องสำรองจ่ายเงินสด เผื่อไว้กรณีฉุกเฉินเงินขาดมือเมื่อป่วยจะได้มีตัวช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้ ยิ่งมีรายชื่อโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการด้วยมากเพียงไร ก็หมายความว่าคุณจะมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
5. ตรวจสอบเวลาการทำงานของฝ่ายพิจารณาสินไหมของบริษัทประกัน ควรสอบถามเวลาการทำงานของแผนกพิจารณาสินไหม เพราะบางแห่งถ้าเราเข้าโรงพยาบาลแล้วจำเป็นต้องออกจากโรงพยาบาลตอนเย็นๆ ค่ำๆ บริษัทปิดรับ Fax Cliam ไปแล้วต้องรอวันทำการวันพรุ่งนี้ อย่างนี้ลูกค้าต้องสำรองเงินก่อน เสียโอกาสไป เสียเวลา
6. ควรศึกษาตารางผลประโยชน์ให้ดี ว่าซื้อค่าห้องเท่านี้ องค์ประกอบภายในได้เท่าไร ค่าหมอ ค่าผ่าตัด ค่าใช้จ่ายทั่วไป ว่าพอดีกับยุคเศรษฐกิจและความต้องการในปัจจุบันหรือไม่ เพราะถ้าหากซื้อไปแล้วเราต้องออกส่วนต่างอีกมากมายก็จะพาลเสียความรู้สึกว่า โอโห ทำประกันปีตั้งหลายบาท เวลาป่วยต้องออกเพิ่มอีกตั้งเยอะ
: ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายค่าห้องของโรงพยาบาลสูงมาก บางโรงพยาบาลเป็นหลักหมื่นต่อวัน ให้เปรียบเทียบบริษัทประกันที่สามารถซื้อได้เผื่อถึงจุดนี้ เพราะต่อไปในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องค่าห้อง จะได้อุ่นใจได้ว่าบริษัทประกันสามารถรองรับได้
7. อย่าลืมศึกษา สอบถามตัวแทนว่า ถ้าต้องสำรองจ่ายไปแล้ว บริษัทจ่ายคืนเร็วหรือเปล่า ภายในกี่วัน
8. สิ่งสำคัญนอกจากรู้จักตัวแบบประกันสุขภาพแล้วอย่างลืมดูฐานะการเงินของบริษัทประกัน และดูบุคลิกภาพตัวแทนตลอดจนความรู้ความสามารถว่าจะสามารถบริการได้หรือเปล่า
เพียงเท่านี้คุณก็จะอุ่นใจได้ว่า สิ่งที่คุณตัดสินใจทำประกันแล้วไป คุ้มค่าจริงๆ …
< Prev | Next > |
---|