ความสำเร็จเริ่มต้นที่....
หลายคนถามหาความสำเร็จ แต่ไม่สามารถเริ่มต้นทำให้เกิดความสำเร็จ ได้ บางท่านบอกกับเราความสำเร็จเริ่มต้นที่เป้าหมาย บางท่านบอกว่า ความสำเร็จเกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝน เคยถามตัวแทนใหม่ๆ หลายคนว่าเขาจะทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างไร เขาถามกลับว่าความสำเร็จเป็นอย่างไร หน้าตาของความสำเร็จเป็นอย่างไร เจอคำถามอย่างนี้เล่นเอาเราตอบไม่เป็นเหมือนกัน แต่ถ้าเริ่มถามตัวแทนใหม่ๆ ว่า มาทำงานนี้ได้อย่างไร ต่างคนต่างก็มีคำตอบของตนเอง..เขาชวนมาทำงาน..เขาบอกว่าบริษัทมีเป้าหมายให้สร้าง ตัวแทนเป็นเดือนๆ ไม่ได้ตามเป้าหมาย ยังขาดอีกสองคน อีกคนจะทำให้ได้ตามเป้าหมาย เลยขอร้องให้มาเป็น...มาเพราะเกรงใจญาติผู้ใหญ่ที่แนะ นำมา...สงสารหัวหน้าที่ขอร้องแล้วขอร้องอีก ปฏิเสธไม่ลง..ฯลฯ |
แทบจะหาคนที่ตั้งใจจะมาเป็นตัวแทนด้วยตนเอง หรืออยากจะเป็นตัวแทนขายประกันชีวิต ไม่มีเลยสักคน ถ้าไม่อยากเป็นหรือเป็นเพราะจำใจ อย่างไรเสียก็คงหาเหตุผลที่จะประสบความสำเร็จได้ยาก แต่งานขายประกัน ชีวิตนั้นก็เป็นอย่างนี้แหละ คือหาคนที่สนใจด้วยตนเองนั้นค่อนข้างยาก คง เริ่มที่ความบังเอิญด้วยกันทั้งนั้น
จะมาด้วยเหตุผลกลใดก็ตามที ไหนๆ ก็มาแล้ว อย่าให้เสียเที่ยว เสียเวลา หรือเสียเงินโดยไร้ประโยชน์ ต้องออกแรงทดสอบฝีมือกันสักตั้ง จะดีกว่าไหม
กำลังจะตอบว่า ความสำเร็จเริ่มต้นที่ความปรารถนาหรือความอยาก แต่พอจะเขียนลงไปก็รู้สึกขัดๆ เพราะอย่างที่กล่าวแต่แรกว่า แต่ละคนไม่ได้ตั้งใจจะมาเป็นตัวแทน เป็นเหตุบังเอิญหรือเหตุคับขันทั้งนั้น แล้วจะหาคำตอบในเรื่องนี้อย่างไรดี ก็อาจจะกล่าวได้ว่า เราไม่ได้ตั้งใจจะเป็นตัวแทน แต่เมื่อต้องเป็นตัวแทน เราต้องตั้งใจจะทำงานตัวแทนดีไหม คำตอบจึงสรุปออกมาว่า ความสำเร็จเริ่มต้นที่ความตั้งใจทำงานให้สำเร็จ แต่ฟังดูแล้วก็ส่ายหัว ไม่น่าใช่หรือเมื่อไม่ตั้งใจจะมาเป็น จะให้ตั้งใจทำได้อย่างไร
ประการแรก เป็นเรื่องของทัศนคติ หรือ Attitude (เห็นไหม ขนาดภาษาอังกฤษยังเอาตัว A ขึ้นต้นเลย) ยืนยันว่าน่าจะใช่ ถ้าเราสร้างทัศนคติที่ดีได้ จากเฉยหรือเกลียดก็จะเปลี่ยนเป็นรักได้ ไม่ชอบเปลี่ยนเป็นชอบได้ ดังนั้น เราต้องเริ่มค้นหาตัวตนของงานประกันชีวิต ทำไมคนจำนวนมากหลง ใหลใฝ่ฝันรักงานนี้ งานนี้มีจุดน่าสนใจตรงไหน ถ้าเราสร้างทัศนคติที่ดีต่อ งานได้ เราก็จะเริ่มมีความสนใจในงานนี้อย่างแน่นอน
การมีทัศนคติบวกนั้น อยู่ที่ใจของคนแต่ละคน ใจใครก็ใจคนนั้น ยัดเยียดกันไม่ได้ แต่สามารถศึกษาหรือได้รับรายละเอียดจากผู้เป็นรุ่นพี่ได้ เรียนรู้ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งได้ บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมสามารถสร้างทัศนคติบวกขึ้นมาได้ แต่ถ้าวันแรกพอจะเข้ารับการอบรม บังเอิญมีคนเพียงสามสี่คนเท่านั้นในขณะที่ห้องอบรมเก้าอี้หรือโต๊ะเต็มไปหมด ก็ทำให้บรรยากาศไม่ชวนเสียแล้ว หรือที่มักจะพบบ่อยๆ คือนัดกันไว้เก้าโมงเช้า เอาเข้าจริงๆ ไปนั่งคอยแล้วคอยอีกกว่าจะเริ่มประชุมได้ปาเข้าไปสิบโมงครึ่ง อย่างนี้ก็คงมีทัศนคติบวกกับทีมนี้ไม่ไหวแต่ต้นเสียแล้ว
พอพบกับหัวหน้าทีม ที่เคยนึกภาพหัวหน้าทีมว่าเป็นอย่างไร พอเจอเข้าจริงๆ กลายเป็นตรงกันข้ามกับที่วาดภาพไว้ ผู้คนในทีมงาน นับตั้งแต่หัวหน้าลงมาก็มีบทบาทในการสร้างทัศนคติบวกของคนใหม่ ถ้าเป็นทีมแห่งความสุขในทีมงาน อยู่กันแบบพี่แบบน้อง ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน หัวหน้าทีมก็วางตัวเหมาะสม แถมด้วยลักษณะที่น่าไว้เนื้อเชื่อใจได้ เห็นแล้วประทับใจแต่ต้น มั่นใจได้ว่าเขาจะนำเราไปสู่ความสำเร็จ อย่างนี้แล้วทีมก็มีส่วนทำให้ อยากทำงาน ในทางตรงกันข้าม หัวหน้าก็มาสาย แถมแต่งตัวแบบจะไปทัศนาจร ไม่สนใจใคร ไม่ทักทายใคร หน้ามุ่ยมาเลย ทัศนคติลบก็เกิดขึ้น ความตั้งใจจะทำงานก็ไม่เกิดขึ้น
ส่วนมากไม่ค่อยได้คิดเรื่องนี้กัน แต่ที่คิดมักจะเป็นเรื่องว่า จะให้เขาทำงานให้เราได้อย่างไร หรืออีกนัยคือไถเอางานจากคนใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด ก็เลยไปเน้นตรงรายได้และความก้าวหน้า ทั้งๆ ที่บรรยากาศการทำงานไม่ให้ ความศรัทธาเชื่อถือยังไม่มี
ทดลองเริ่มใหม่ในครั้งต่อไปดีไหมครับ เริ่มด้วยการสร้าง Attitude ให้ตัวแทนใหม่ ด้วยการสร้างบรรยากาศในการทำงาน และการสร้างความอบอุ่นความสุขในที่ทำงาน ทำให้เขาอยากที่จะทำงาน เพราะเมื่อคนมีความสุขแล้ว อะไรก็ไม่สามารถยับยั้งเขาจากความตั้งใจในการทำ งานได้ครับ
ที่มา : www.siamturakij.com
< Prev | Next > |
---|