AACPรีครูตตัวแทนเพิ่ม1.8หมื่น รับมือเป้าหมายเบี้ยปีเสือ6พันล้าน

Print

          เอเอซีพีเล็งเป้ากวาดเบี้ยปีแรก 6 พันล้าน โต 40% มอบเป้าตัวแทนไว้ที่ 4 พันล้าน เล็งรีครูตตัวแทนใหม่เพิ่มอีก 1.8 หมื่นคนสู้คู่แข่งเต็มอัตราศึก ลั่นพร้อมอัดฉีดผลประโยชน์คนทำงานเพิ่ม หวังกระตุ้นให้มีตัวแทนแอ๊กทีฟเพิ่มขึ้น  
          นายสตีเฟ่น  แอปเปิ้ลยาร์ด  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต (เอเอซีพี) เปิดเผยว่า    บริษัทได้ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมปี 2553 ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท  เติบโตเพิ่มขึ้น 27% จากปี 2552 ที่ผ่านมาผลิตได้ 15,722 ล้านบาท  แยกเป็นเบี้ยปีแรก 6,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 41% และเบี้ยปีต่ออายุ 14,000 ล้านบาท  ทั้งนี้บริษัทยังคงเน้นการขยายตลาดผ่าน 3 ช่องทางหลักคือ เบี้ยฯขายผ่านช่องทางตัวแทน 4,000 ล้านบาท  เติบโต 55%  จากปีที่ผ่านมาทำได้ 2,571 ล้านบาท  ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ 1,000 ล้านบาท  หรือโตเพิ่ม 19%  ไดเร็กมาร์เก็ตติ้ง และเทเลมาร์เก็ตติ้ง ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โตเพิ่ม 32%  

  
          โดยบริษัทได้ตั้งเป้ารีครูตตัวแทนใหม่ เพิ่มอีก 18,000 คน จากปัจจุบันมีตัวแทนทั้งหมด 25,634 คน และเป็นตัวแทนที่มีผลงาน (Active Agent) 3,720 คน โดยปีนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 6,000 คน โดยการเพิ่มผลประโยชน์เพื่อจูงใจให้ตัวแทนแอ๊กทีฟมากขึ้น   เนื่องจากปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าตัวแทนทำงานของบริษัทยังน้อยมาก  กระทั่งมาในไตรมาสสุดท้ายของปี 52 ที่ผ่านมาจึงได้ปรับโครงสร้างภายในของตัวแทน โดยการแบ่งโซนทำงานทั่วประเทศเป็ฯ 5 ภาค โดยแต่ละภาคมีผู้บริหารดูแลอยู่  ซึ่งบริษัทจะกำหนดเป้าหมายให้เขารับผิดชอบ  อันจะช่วยกระตุ้นให้การทำงานเพิ่มมากขึ้น  
          นายสตีเฟ่น กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทจะทำการเพิ่มผลประโยชน์ให้กับฝ่ายขายมากขึ้น สำหรับคนที่มีผลงานในทำนองถ้าทำผลงานได้มาก  ก็จะได้รับผลตอบแทนมากขึ้นตาม  เพื่อให้เราบรรลุสู่เป้าหมายที่วางไว้  อีกทั้งปีนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณ 300 ล้านบาท ในการปรับปรุงโครงสร้างระบบงาน เทคโนโลยี และระบบการบริหารงานของบริษัทให้มีความทันสมัยขึ้น  เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีขึ้น  อีกทั้งยังทำให้ตัวแทนเองสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการด้านเอกสารผ่านระบบไอทีได้รวดเร็วขึ้น   และยังเป็นการรองรับการขยายงานในช่องทางขายผ่านเทเลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น 
          ขณะเดียวกันเพื่อให้การทำเทเลมาร์เก็ตติ้งประสบความสำเร็จจำ เป็นต้องมีขนาด ที่เหมาะสมกับ Call Center โดยไม่ควรจะเกิน 150-200 คนต่อ 1 Call Center   โดยขณะนี้บริษัทมีพนักงานขายรวม 3 แห่งอยู่ที่ 404 คน  ซึ่งได้ทำการปิดศูนย์ Call Center ที่เชียงใหม่  และนครราชสีมาลงไปเมื่อเร็วๆนี้ ให้เหลือเพียง 3 แห่งที่กทม.  คือ สนง.ใหญ่อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ที่อาคารสุรวงศ์ และที่อาคารโมเดิรน์ฟอร์ม  ทั้งนี้เพราะยอดขายไม่สู้ดีนัก เมื่อเทียบกับอัตราการทำงานของพนักงานกับปริมาณงาน 

ที่มา : www.sumret.com