อลิอันซ์ฯ ทุ่ม 700 ลบ. ใน 3 ปี หนุนประกันชีวิตในไทยโตแกร่ง หวังเอเอซีพี ปั้นเบี้ยใหม่ปี 53 ไปถึงฝัน 6,000 ลบ ชดเชยปีก่อนพาดเป้า แต่พบเบี้ยผ่าน 3 ช่องทางขายหลักโตพุ่ง เดินหน้าปรับกลยุทธ์บางส่วน รุกปรับโครงสร้างทีมตัวแทน และเฟ้นตัวแทนทำงานเพิ่ม พร้อมดอดจีบคู่ค้าแบงก์รายใหม่ และล่าสุดรวมศูนย์คอลเซ็นเตอร์ไว้ในกรุงเทพฯ เพื่อรักษาผู้นำขายประกันผ่านโทรศัพท์ หลังต่างจังหวัดยอดขายไม่รุ่ง หวังสื้นปีมีผู้ถือกรมธรรม์เพิ่มเป็น 925,000 ราย จากปีก่อน 850,000 ราย
นายสตีเฟ่น แอปเปิ้ลยาร์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อยุธยา อลิอัลซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต กล่าวถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจปีนี้ว่า จากการที่บริษัทแม่กลุ่มอลิอันซ์ เยอรมันนี ยังเห็นโอกาสขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น จึงสนับสนุนงบลงทุนพัฒนาธุรกิจในไทย ช่วง 3 ปีจากนี้ มูลค่า 700 ล้านบาท แบ่งเป็นปีแรก 300 ล้านบาท และอีกสองเป็นถัดไปปีละ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ งบลงทุนดังกล่าวเพื่อ ลงทุนพัฒนาโครงสร้างระบบเทคโนโลยีที่จะทำให้ลูกค้าและตัวแทน ได้รับการบริการที่ดีและเร็วขึ้น ควบคู่กับเพิ่มศักยภาพและประสานระบบการทำงานกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเพื่อสนับสนุนการสร้างแบรนด์และต่อยอดการขายประกันผ่านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ครบวงจรและมีความทันสมัย โดยเฉพาะการขายประกันแบบตรงผ่านโฆษณาทางโทรทัศน์
ขณะที่เป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจปีนี้ จะมีเบี้ยรับรวม 20,000 ล้านบาท และมีเบี้ยปีแรก 6,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน มีมูลค่า 15,722 ล้านบาท และ 4,263 ล้านบาท ซึ่งยอมรับว่าปีที่ผ่านมาตัวเลขเบี้ยปีแรก ไม่เข้าเป้าตามที่ตั้งใจไว้ทำให้การตั้งเป้าปีนี้ ยังคงเป็นตัวเลขเดิม แต่จะมีการปรับปรุงกลยุทธ์ 6 เสาหลัก ให้น่าสนใจ เพื่อสร้างยอดขายมากขึ้น มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งขึ้น หวังสื้นปีจะมีผู้ถือกรมธรรม์เพิ่มเป็น 925,000 ราย จากปีก่อน 850,000 ราย
โดยเป้าหมายเบี้ยปีแรกปีนี้ 6,000 ล้านบาท คาดว่า จะมาจากช่องทางตัวแทน 4,000 ล้านบาท เติบโต 55% , ช่องทางแบงก์แอวชัวรันส์ 1,000 ล้านบาท เติบโต 19% และช่องทางขายตรง (เทเลมาร์เก็ตติ้ง) อีก 1,000 ล้านบาท เติบโต 32%
อย่างไรก็ตาม นายสตีเฟ่น ยังเชื่อมั่นว่า กลยุทธ์ที่วางไว้ในปีที่ผ่านมา จะสร้างแรงเหวี่ยงเป็นจริงได้ในปีนี้ โดยเฉพาะการเติบโตผ่านช่องทางตัวแทน โดยปลายปี 2552 ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารตัวแทนฝ่านขายแบ่งเป็น 5 ภาค ทำให้มีเบี้ยจากช่องทางตัวแทนเติบโตเพิ่มขึ้น 40% คิดเป็นมูลค่า 2,571 ล้านบาท รวมถึงจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มจำนวนตัวแทนที่มีผลงานให้มากขึ้นเป็น 6,000 คน จากปัจจุบันมีตัวแทนกลุ่มนี้น้อยมากเพียง 3,700 คน ภายใต้กิจกรรมการแข่งขันกระตุ้นยอดขายของตัวแทน โดยตอนนี้บริษัทมีตัวแทนทั้งหมดมีจำนวน 25,634 คน คิดเป็นตัวแทนใหม่ 16,000 คน
ทางด้านแบงก์แอสชัวรันส์ เตรียมหาพันธมิตรรายใหม่ พร้อมกับพัฒนาแบบประกันเฉพาะให้กับคู่ค้า ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ระหว่างการเจรจา จากปัจจุบันบริษัทมีพันธมิตรกลุ่มนี้ 6 รายได้แก่ แบงก์กรุงศรีฯ ,ทิสโก้ ,เอชเอสบีซี, เอลเอชแบงก์,ซิตี้แบงก์,ออมสิน และล่าสุดปีที่ผ่านมา ร่วมมือกับบัตรเครดิตอิออน นำเสนอขายแบบประกันความคุ้มครองชีวิต เช่น ประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ในอัตราเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าบัตรเครดิตรายอื่นๆ เนื่องจากฐานลูกค้าถือบัตรอิออน มีความสามารถในการจ่ายและใช้เงินต่ำกว่าลูกค้าบัตรทองของซิตี้แบงก์ โดยถือว่าเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโต จากปัจจุบันมีจำนวนผู้ถือบัตรอิออนประมาณ 1.2 ล้านใบ และมีจำนวนผู้ขอสินเชื่อประมาณ 1.8 ล้านคน
สำหรับช่องทางการตลาดขายตรง บริษัทมีเป้าหมายครองความเป็นหนึ่งไว้ ปัจจุบันได้มีการรวมศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ในต่างจังหวัด ที่เชียงใหม่และโคราช มาไว้ที่กรุงเทพฯ เหลือศูนย์คอลเซ็นเตอร์ 3 แห่ง ที่พหลโยธิน สุรวงศ์และตึกโมเดิลฟอร์ม เพื่อสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลการขายผ่านเทเลมาร์เก็ตติ้งให้ประสบความสำเร็จ
เพราะด้วยประสบการณ์ 12 ปี ในการพัฒนาช่องทางนี้ให้ประสบความสำเร็จ มองว่า แต่ละศูนย์จะต้องมีพนักงานขายจำนวน 150-200 คน แต่ที่ผ่านมาพบว่า แต่ละศูนย์ฯในต่างจังหวัด มีพนักงานเพียง 50 คนและเมื่อส่งระดับผู้จัดการเดินทางคุมงานแต่ละเดือน ก็พบว่า เมื่อผู้จัดการเดินทางไปคุม จะมียอดขายขึ้น แต่หลังจากผู้จัดการกลับไปยอดขายก็ลดลง ถือว่าเป็นการเติบโตที่ไม่ยั่งยืน ต้องปรับปรุงและเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้วย
นอกจากนี้ในช่วงเดือนเมษายนนี้ บริษัทเตรียมออกโฆษณาชุดใหม่ เน้นการสร้างแบรนด์ต่อเนื่องจากปลายปีได้ชะลอการออกอากาศไว้ และในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทจะออกโฆษณาอีก 1 ชุด แต่จะเน้นการขายประกันผ่านโทรทัศน์ต่อเนื่องด้วย
| < Prev | Next > |
|---|
