พัฒนางานเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

          การมุ่งทำงานเพื่อเงินหรือเพื่อตำแหน่งที่สูงที่กว่านั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องดีและทำให้เรามีความสุข แต่ จะเป็นการดีกว่าไหมถ้าจุดมุ่งหมายในการทำงานนั้นจากนี้ต่อ ไปเราจะทำเพื่อมุ่งพัฒนาชีวิตของเราเอง และใช้ศักยภาพที่มีอยู่ในตัวช่วยให้โลกใบนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
          การทำงานเพื่อมุ่งพัฒนาชีวิตนั้นจะต้องไม่ใช่ทำเพื่อให้จบไปวันๆ แต่ผลงานที่ออกมาควรสะท้อนถึงพลังชีวิต หรือความมีชีวิตชีวาในตัวเรา เผยให้เห็นตัวตน บ่งบอกถึงความใฝ่ฝัน และเป็นตัวแทนชีวิตจิตใจของเราได้ด้วย

เป้าหมายที่แท้จริง
           แม้ว่าจุดประสงค์เบื้องต้นของคนส่วนใหญ่จะมีอยู่เป้าหมายเดียวคือ ทำงานเพื่อเงิน อุทิศเรี่ยวแรงทั้งแรงกายและแรงใจก็เพื่อแลกเปลี่ยนไว้เป็นเงินมาจักจ่ายใช้สอย เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่นอกเหนือ จากเงินแล้วหลายคนก็ได้ออกมายืนยันว่าที่ทำงานเพราะมีแรงกระตุ้นอยากได้รับการยอมรับ อยากก้าวหน้า อยากมีส่วนร่วมกับผู้อื่น อยากให้ชีวิตมีความหมายมากขึ้น หรือ หลายๆอย่างรวมกัน
           นิธิภา  เพียรศุภกิจ ตัวแทนประกันชีวิต เล่าถึงแรงจูงใจในการทำงานของเธอว่าเริ่มต้นจากต้องการเงิน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งทัศนคติของเธอเปลี่ยนไป เธอกลับพบว่ามีความสุขกับงานมากกว่า และงานได้ให้ความหมายใหม่ที่มีคุณค่ากับเธอมากกว่า “ยอมรับเลยนะว่า แรกๆ คอมมิชชั่นที่บริษัทวางไว้ทำให้อยากได้เงินเยอะๆ เหมือนมีแรงกระตุ้น แต่พอทำไป ๆ ก็รู้สึกว่าหนัก เหนื่อยทำไมต้องกดดันตัวเองขนาดนี้ แถมยังสตางค์ก็ยังไม่กล้าใช้ ไม่มีเวลาหาความสุขให้ตัวเอง พอกลับถึงบ้านก็เหนื่อยในหัวคิดถึงแต่ยอดขาย ตอนหลังเลยเอาใหม่ คิดว่าเอาแค่พอดีๆ และก็เชื่อมั่นว่าเราอยากเอาสิ่งดีๆ ไปแนะนำ ไปบอกต่อให้คนอื่นรู้ คราวนี้เลยเปลี่ยน ไม่รู้สึกหนักหรือกดดันอย่างแต่ก่อน คิดว่าเราจะได้ฝึกตัวเองไปด้วย ถ้าเจอลูกค้าบางคนที่ไม่เปิดใตตั้งแต่แรกเราจะมีวิธีอธิบายหรือโน้มน้าวให้เขาเข้าใจได้อย่างไร รู้สึกสนุก ท้าทาย ทำอย่างไรถึงจะชนะใจลูกค้าได้ แล้วก็ขายเก่งขึ้นเรื่อยๆ เอง”
           นิธิภา ค้นพบวิธีทำให้เธอมีความสุขกับงานได้มากกว่า เธอพบว่านอกเหนือจากเงินแล้ว การเปลี่ยนทัศนคติในการทำงานมาเป็นการพัฒนาชีวิตทั้งของตัวเองและผู้อื่นทำให้เธอทำงานได้ อย่างสบายๆ สนุกขึ้น และรู้ซึ้งถึงคุณค่าของตัวเองมากขึ้น

 มอบความรักให้กับงาน
           แน่นอน ว่าการทุ่มเทให้กับหน้าที่การงานนั้นเป็นสิ่งดี คนส่วนใหญ่มักได้รับการปลูกฝังมาให้ทำงานของตัวเองอย่างดีที่สุด ทุ่มเทกายใจให้กับงาน เพราะถึงที่สุดแล้วสิ่งที่เราลงทุนลงแรงไปกับงานก็จะย้อนกลับมาตอบแทนให้เราสุขสบายมากขึ้น และมีชีวิตที่ดีขึ้น บางคนหายใจเข้าออกเป็นงานเพราะเชื่อว่างานทำให้ชีวิตมีคุณค่า ความสำเร็จที่เกิดจากงานทำให้ชีวิตเกิดความสำเร็จ แต่การจะต่อยอดความคิดเกี่ยวกับเรื่องงานออกไปจำเป็นต้องมองงานในมุมที่ต่างจากเดิม คือให้เห็นว่างานเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในชีวิต ทุกอย่างต้องเคลื่อนไปพร้อมๆ กันไม่ว่าจะเป็นครอบครัว สุขภาพ เพื่อฝูง สังคม และสิ่งแวดล้อม ต้องจัดทุกอย่างให้สมดุลกันลงตัว สอดคล้องไปกับความสำเร็จของงาน เพราะชีวิตไม่ได้มีจุดหมายปลายทางอยู่เพียงการประสบความสำเร็จ  แต่เป็นการงอกงาม การเรียนรู้ และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก การทำงานควรอยู่บนพื้นฐานของความรัก มาจากความปรารถนาดีที่อยากจะมอบสิ่งดีๆ ออกไปสู่ผู้คน

ที่มา : บางส่วนในคอลัมน์ ELLE CAREER นิตยสาร ELLE THAILAND ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2551 No.160